จากกรณี นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ “ไฮโซลูกนัท” ได้เดินทางมายังหน้ารัฐสภาบริเวณประตู 4 วัดแก้วฟ้า เพื่อยื่นใบรับรองแพทย์ผ่านตัวแทนไปให้แก่ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ฝ่าย ส.ส.ไม่เชื่อว่า นายธนัตถ์ ตาบอดจริงจึงท้าทายด้วยการมอบเงินให้ 1 ล้านบาทหากมีหลักฐานว่าตัวเองตาบอด โดยจะให้ไปตรวจยัง รพ.รัฐ 3 รพ.เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่สุดเพราะมีแหล่งข่าวแจ้งว่าอีกฝ่ายยังมองเห็นได้ถึง 15% ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหลังจากได้ตรวจสอบดูใบรับรองแพทย์แล้วพบว่ามีการลงชื่อ พญ.ณฐมน ศรีสำราญ ตนถามว่า พญ.คนดังกล่าวเป็นเจ้าของไข้ และเป็นผู้เชี่ยวชาญในการรักษาจริงหรือไม่ ตนได้สอบถามแพทย์หลายๆ คน รวมถึง พญ.พรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา ได้ให้ความเห็นว่า การวินิจฉัยโรคไม่สามารถเขียนว่า ตาบอดข้างขวาแล้วจบแบบนี้ได้ ซึ่งนี่ไม่ใช่ภาษาแพทย์และภาษากฎหมาย อีกทั้งได้ข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงออกใบรับรองแพทย์ในช่วงเวลา 20.00-21.00 น.

นายสิระ กล่าวว่า การวินิจฉัยโรคออกมาตามคำพูดของตนตรง ๆ ว่า ตาบอด แบบนี้ทำได้ด้วยหรือ ทั้งนี้ รพ.พญาไท 1 และแพทยสภา ต้องตรวจสอบการทำงานของหมอคนนี้ว่า มีความรู้ ความสามารถ และมีจริยธรรมในการทำหน้าที่หรือไม่ หากตาบอดจริงแพทย์เจ้าของไข้จะต้องควักลูกตาออกแล้วใส่ลูกตาใหม่ ไม่ใช่ปล่อยให้คนไข้เดินไปแหกตาในสถานีโทรทัศน์ ตลอดจนพิธีกรต้องรับผิดชอบด้วย ทั้งนี้ จากการสังเกตจะเห็นว่าบาดแผลอยู่เหนือดวงตา และดวงตาก็อักเสบ วิธีการแก้ไขคือนอนนิ่งๆ เพื่อให้เลนส์ตาฟื้นตัว โดยปกติต้องใช้เวลารักษานาน 6 เดือน แต่นายธนัตถ์ และพิธีกรกลับวินิจฉัยว่าตาบอด จึงต้องวินิจฉัยอีกรอบ

“…ถ้าอยากได้เงิน 1 ล้านบาท ขอให้ตรงไปตรงมา ต้องมีหลักฐานยืนยัน อย่ามาเล่นแบบนี้ แหกตาผมได้ แต่ไม่สามารถแหกตาคนทั้งประเทศได้ ซึ่งผมจะยื่นเรื่องให้แพทยสภาตรวจเรื่องนี้ และ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญและให้ข้อมูลที่ไม่เที่ยงตรง เป็นแค่หมอม็อบหรือม็อบ 3 กีบ ซึ่งในวันจันทร์นี้ผมจะวางเงินสด 1 ล้านบาท และให้เขาวาง 10 ล้านบาท จากนั้นไปหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญใน รพ.ของรัฐเพื่อให้คำตอบ หากตาบอดจริง ผมจ่ายทันที หากไม่จริงขอให้ นายธนัตถ์ ซื้อข้าวหอมมะลิด้วยเงิน 10 ล้านบาท แจกคนหลักสี่และคนจตุจักรด้วย…” นายสิระ กล่าว.