เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 ก.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เป็นวันที่ 4 มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม โดยนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย เริ่มอภิปรายเป็นคนแรก โดยอภิปรายไม่ไว้วางใจนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เพราะตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งคาดหวังว่าจะทำตามนโยบายที่ได้เคยหาเสียงไว้ ว่าถ้าได้เป็นรัฐบาลค่าแรงขั้นต่ำต้องเพิ่มขึ้นเป็น 400-425 บาท จบปริญญาตรีได้เงินเดือน 2 หมื่นบาท จบอาชีวะได้ 1.8 หมื่นบาท แต่พอผ่านมา 1 ปีกลับไม่ทำ ทั้งที่เคยหาเสียงไว้ถือว่าหลอกลวงไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ดังนั้นตนจะไปยื่นเรื่องเพื่อร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบนายสุชาติ รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เนื่องจากการโกหกหลอกลวงประชาชนทั้งประเทศ

นายสมคิด กล่าวต่อว่า ส่วนตัวเลขแรงงานต่างด้าวซึ่งมีประมาณ 2.3 ล้านคน แบ่งเป็น ในกทม. 7.5 แสนคน ปริมณฑล 1.3 แสนคน มีแรงงานผิดกฎหมายมาขึ้นทะเบียน 5 หมื่นคน แต่บางกลุ่มซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ไม่ยอมขึ้นทะเบียน และไม่มีมาตรการตรวจคัดกรอง ทำให้วันนี้โควิดกระจาย เพราะมาจากแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทาง อ.แม่สอด จ.ตาก ที่มีการลักลอบขนแรงงานเข้ามา โดยกระบวนการนี้มีนายดาบ จ. ซึ่งรู้จักกันทั้งแม่สอด ดำเนินการก่อนส่งต่อไปข้างบนสุดท้าย “บิ๊ก ป.” และมี “เจ๊ อ.” ร่วมขบวนการด้วยในการเป็นเอเย่นต์ กระจายแรงงานเถื่อนไปตามจุดต่างๆ ในประเทศ ตนไม่แน่ใจว่านายสุชาติ เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ค่าหัวแรงงานเถื่อนตกอยู่ที่ 5,000 บาทต่อคน ที่ผ่านมาตัวเลขแรงงานเถื่อนมีถึง 5 หมื่นคน คิดเป็นมูลค่า 250 ล้านบาท เรื่องนี้เคยพูดไปแล้วเมื่อการอภิปรายครั้งที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้มีการจัดการจากรัฐบาลเลย วันนี้ตนจึงได้พูดซ้ำอีก และหากยังไม่มีการจัดการอีก ก็จะพูดต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ทำให้สถานการณ์โควิดย่ำแย่และเกิดความเสียหายกับประเทศ

ขณะที่ นายสุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายการบริหารราชการผิดพลาดของ รมว.แรงงาน ว่าการเยียวยามีความซับซ้อนทำให้แรงงานเข้าไม่ถึงความช่วยเหลือ ได้รับเงินเยียวยาล่าช้า ดูแลแบบตกหล่นมองคนไม่เท่ากัน เลือกสั่งปิดกิจการ แต่เมื่อถึงเวลาเยียวยากลับตกหล่น ส่วนแรงงานข้ามชาติก็ไม่ได้รับการดูแล นายสุชาติยังโอ้อวดความสำเร็จว่าฉีดวัคซีนให้แรงงานในแคมป์ได้ 50% แต่ตนได้ข้อมูลว่าฉีดไป 8 หมื่นกว่าคน ซึ่งตัวเลขแรงงานมี 2 แสนคน นอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมข่มขู่ผู้ที่ไปยื่นหนังสือที่ประสงค์ให้ติดตามค่าชดเชยจากโรงงานที่ถูกปิด บีบให้จนแล้วแจก กดให้โง่แล้วปกครอง ปล่อยให้ป่วยแล้วรักษา รีดเงินภาษีมาแล้วทวงบุญคุณ มีพฤติกรรมไม่รักษาผลประโยชน์แรงงาน ไร้มนุษยธรรม เอาอำนาจตำแหน่งสร้างบารมี ทำพฤติกรรมข่มขู่ คุกคาม นักเลงกับแรงงานที่ได้รับความเดือดร้อน จึงไม่อาจไว้วางใจนายสุชาติ ให้เป็น รมว.แรงงาน ต่อไปได้แม้แต่วันเดียว

“รมว.แรงงาน ปล่อยปละให้มีการดำเนินการเรื่องของการที่จะได้รับสิทธิวัคซีนจากสถานประกอบการ ต้องมีการทำหนังสือหัวกระดาษเรียนถึงท่านรัฐมนตรี เพื่อที่จะได้รับการอนุมัติไปดูแล ถามว่าต้องมีเส้น มีสาย มีพวก อยู่ในที่ปรึกษาหรืออยู่ในกระบวนการของรัฐมตรี เช่นนั้นสถานประกอบการขนาดเล็กจะมีโอกาสเข้าถึงหรือไม่ เขาทำหนังสือร้องเรียนมาที่ผมให้นำเรื่องนี้มาอภิปรายด้วย เพราะเขาโดนกระทำจากการบริหารจัดการจากนายสุชาติ ต้องมีคนใกล้ชิดอย่างนั้นหรือถึงจะได้รับเตียง ได้รับการฉีดวัคซีน แบบนี้รันทดจริงๆ” นายสุเทพ กล่าว

ด้าน นายสุชาติ ชี้แจงว่า เราเป็นสุภาพบุรุษด้วยกัน การที่จะเอาไลน์ส่วนตัวที่คุยกันในกลุ่มแรงงาน กลุ่มสหภาพด้วยกันมาเปิดเผย ถ้าตนบอกสมาชิกหรือที่ปรึกษาตน เอาไลน์ที่ช่วยเหลือท่าน เกี่ยวกับคนใกล้ชิดท่านมากๆ แต่เป็นความลับในการช่วยเหลือมาเปิดเผยบ้างท่านจะรู้สึกอย่างไร ท่านเป็นนักการเมืองควรต้องมีมารยาท ต้องมีความเป็นสุภาพบุรุษ ทั้งนี้ การเยียวยาแรงงานไม่ได้เฉพาะช่วยเหลือแต่ลูกจ้าง แต่กระทรวงแรงงานช่วยเหลือนายจ้างด้วย การปิดแคมป์คนงานช่วงที่ตัวเลขสูงขึ้น ตนอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องปฏิบัติ เนื่องจากฝ่ายวิเคราะห์มองว่าแคมป์คนงาน 626 แคมป์ในกทม. ประมาณ 8 หมื่นคน พักอาศัยในกทม. และ จ.นนทบุรี เรากลัวระหว่างแวะข้างทาง เราปิดเพื่อให้จบ ตนเชิญนายกสมาคมก่อสร้างไทย และผู้ประกอบการมาประชุมร่วมกัน ตนให้คำมั่นสัญญาในวันนั้นว่า ปิดแล้วต้องจบ มีการตรวจและฉีดวัคซีน 100% ซึ่งวันนี้แคมป์คนงานในกทม. และจังหวัดใกล้เคียง ฉีดวัคซีนครบหมดแล้ว

นายสุชาติ ชี้แจงต่อว่า ตนไม่รู้จักดาบ จ. เจ๊ อ. ตามที่ผู้อภิปรายพูด กระบวนการตรงนี้ ตนและกระทรวงแรงงาน มีหน้าที่ตรวจในสถานประกอบกิจการ ว่าคนที่อยู่ในโรงงานนั้น มีใบอนุญาตทำงานถูกต้องหรือไม่ ตนเคยถามคนที่มีหน้าที่ตรวจ ว่าเวลาที่ตรวจเจอ อย่างเช่น ปีที่ผ่านมาตรวจไป 3 หมื่นกว่ากิจการ ตรวจแรงงาน 5 แสนกว่าคน หากพบว่ามีการกระทำผิดก็ดำเนินคดี ส่วนกรณีการขึ้นค่าแรงนั้น ยืนยันว่ามีเรื่องนี้อยู่ความคิดเสมอ แต่ตอนนี้ขอแก้ไขปัญหาให้พี่น้องแรงงานเรื่องการเลิกจ้างและการกระจายวัคซีนก่อน.