บัวขาว บัญชาเมฆ หรือร้อยโทสมบัติ บัญชาเมฆ นักมวยไทยขวัญใจชาวโลก เปิดเผยถึงการตัดสินใจรับคำชวนของเวทีมวยราชดำเนินและบริษัท GSV Global Sport Ventures Co., Ltd. รับตำแหน่งประธานคณะกรรมการพัฒนากีฬามวยคนใหม่แห่งเวทีราชดำเนิน ร่วมพัฒนามวยไทยให้เทียบเท่าเวทีโลก ครั้งนี้ว่า ตรงกับปณิธานในใจของตนเองที่อยากมีส่วนร่วมพัฒนาวงการมวยไทยให้ทัดเทียมต่างชาติ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ การมีส่วนร่วมผลักดัน ปลุกปั้น ให้ประเทศไทยและเวทีมวยราชดำเนินเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) ของกีฬาการต่อสู้ ตอกย้ำให้คนทั่วโลกได้รู้ว่า หากต้องการเรียนวิชาการต่อสู้ ต้องมาประเทศไทย มาเรียนมวยไทย ทั้งการเรียนระดับเริ่มต้นไปจนถึงการต่อยอดกีฬาอื่น เพราะมวยไทยเป็นพื้นฐานสำคัญของกีฬาการต่อสู้เกือบทุกชนิด

บัวขาว ย้ำอีกว่า ภาพลักษณ์ของเวทีมวยราชดำเนินมีความยิ่งใหญ่ในระดับโลก และมวยไทย เป็นชอฟต์ พาวเวอร์ (Soft Power) ที่แท้จริงในการเผยแพร่ความเป็นไทย และร่วมสร้างเศรษฐกิจไทย จากประสบการณ์การเดินทางไปชกในต่างประเทศ โดยเฉพาะการเป็นแชมป์มวยเควัน (K-1 World MAX champion) หลายสมัย ทำให้เห็นว่ามวยไทยได้รับความนิยมมากขึ้น โดยในสายตาชาวต่างชาติมองว่า มวยไทยสามารถเอาชนะบนเวที K-1 ได้ ทำให้เริ่มเกิดกระแสความต้องการเดินทางมาประเทศไทย เพื่อชมมวยไทย เรียนมวยไทย เมื่อต่างชาติมาเมืองไทย เดินสตรีทฟู้ด ทานอาหารไทย เรียนรู้ภาษาไทย สักยันต์ลายแบบไทย จะเห็นชาวต่างชาติใส่ชุดมีธงชาติไทย ใส่กางเกงมวยไทย เห็นความเป็นไทยในตัวชาวต่างชาติ ทั้งหมดนี้สะท้อนได้ว่า มวยไทยเชื่อมโลกได้ และมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกด้วย

ที่สำคัญ เวทีมวยราชดำเนินซึ่งเป็นเวทีมวยไทยแห่งแรกของโลกก็เสมือนเป็นบ้าน เป็นจุดเริ่มต้นของกีฬามวยไทยที่แพร่หลายในทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นการที่ได้มาเป็นประธานคณะกรรมการพัฒนากีฬามวยคนใหม่ของเวทีมวยราชดำเนินจึงถือเป็นก้าวสำคัญในความตั้งใจของตนที่ต้องการจะผลักดันวงการมวยไทยให้ไปสู่ระดับโลกอย่างแท้จริงโดยจะทุ่มเทสรรพกำลังอย่างเต็มที่ในการทำงานร่วมกับคณะกรรมการพัฒนากีฬามวยราชดำเนินซึ่งประกอบด้วย ว่าที่ร้อยโท ธีรวัฒน์ ยิ้วยิ้ม เลขาธิการคณะกรรมการ และคณะกรรมการอีก 3 ท่านคือ นายจิต เชี่ยวสกุล นายเธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ และนายศรัณย์ ลดาวรรษ์

นอกจากการรับตำแหน่งประธานคณะกรรมการฯ แล้ว บัวขาวยังมีอีเวนต์ใหญ่ในการคืนถิ่นเวทีมวยไทยครั้งนี้ด้วยการขึ้นชกประเดิมในรายการ ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ (Rajadamnern World Series: RWS) ซึ่งเป็นรายการมวยไทยยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ที่เปิดโอกาสให้สุดยอดนักกีฬามวยไทยจากทั่วโลกมาต่อสู้กันบนสังเวียน กับรูปแบบการแข่งขัน และกติกาที่จะยกระดับวงการมวยไทย โดยบัวขาวจะขึ้นชกในศึกพิเศษในรายการนี้ด้วยการแข่งขันทั้งหมด 3 ครั้ง

ด้านเทรนเนอร์คู่ใจบัวขาว ว่าที่ร้อยโท ธีรวัฒน์ ยิ้วยิ้ม ผู้ดูแลการฝึกซ้อมของบัวขาวมากกว่า 15 ปี ยืนยันว่า บัวขาวมีความมั่นใจเต็มร้อย และสิ่งที่แฟนมวยจะได้เห็นในการกลับมาขึ้นเวทีมวยราชดำเนินอีกครั้ง คือสไตล์การชกที่เปลี่ยนไป จากที่เดินหน้าลุย ใช้แรง เปลี่ยนเป็นผสมผสานความดุดัน เข้ากับการใช้จังหวะ ฝีมือ ใช้ความคิดมากขึ้น ไม่เอาตัวเข้าแลก มาเป็นการเน้นใช้ประสบการณ์และความเก๋าเกมเข้าสู้ ซึ่งเป็นความได้เปรียบที่บัวขาวมีเหนือกว่าคู่ต่อสู้ และแฟนมวยทั่วโลกจะได้เห็นศาสตร์ของมวยไทยระดับสูงทั้งบู๊และบุ๋น อย่างแน่นอน