กรณี น้องเอ (นามสมมุติ) เด็กหญิงอายุ 14 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.พัทลุง ถูกครูไล่ออก เนื่องจากไม่มาโรงเรียนตามวันและเวลาที่กำหนด อีกทั้งไม่จ่ายค่าเล่าเรียน ทั้งที่ก่อนหน้านั้นได้แจ้งทางโรงเรียนแล้ว ทั้งนี้ เด็กหญิงคนดังกล่าวหาทางออกไม่ได้ จึงตัดสินใจผูกคอเสียชีวิตภายในบ้านที่ อ.สะเดา จ.สงขลา

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามญาติของน้องเอ โดยญาติได้เล่าให้ฟังว่า ปกติน้องเป็นเด็กที่เงียบ  เด็กที่ไม่ร่าเริง ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียวตลอด ส่วนพี่สาวที่อยู่ด้วยก็พยายามเข้าหา แต่น้องจะหลีกเลี่ยงไม่อยากเจอใคร แม้กระทั่งล่าสุดพี่สาวชวนไปห้างน้องยังไม่ไป น้องจะอยู่คนเดียวอยู่กับเพื่อนเขา ส่วนตัวแล้วน้องเรียนที่พัทลุง เมื่อก่อนน้องอยู่กับป้า แล้วป้าเสียชีวิต หลังจากนั้นน้องก็มาอยู่กับลูกพี่ลูกน้องที่พัทลุง ขณะนั้นแม่น้องไม่มีเวลาไม่ได้สนใจ ลูกพี่ลูกน้องเลยเอามาอยู่ด้วยที่พัทลุง ด้วยความสงสาร

ปกติน้องจะเป็นคนไม่ชอบยุ่งกับใครชอบเก็บตัวเงียบๆ อยู่คนเดียว ใครพยายามคุยด้วยน้องก็ไม่คุย ซึ่งเป็นผลมาจากที่ป้าน้องเสียชีวิต เพราะน้องเป็นคนติดป้ามาก หลังจากป้าเสียน้องก็เปลี่ยนไป ส่วนเรื่องที่บ้านน้องเองนั้น ตอนเด็กๆ พ่อกับแม่แยกทางกัน แม่น้องก็ไม่มีเวลาเอาใจใส่ แม่น้องจะทิ้งให้อยู่กับป้าตลอด น้องก็อยู่กับป้าน้องรักป้ามาก พอป้าน้องเสียชีวิต เหมือนน้องคิดว่าน้องไม่เหลือใคร  

ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุนั้น ตัวเองอยู่ที่ปาดังเบซาร์ เราก็เข้าใจว่าน้องอยู่กับพี่สาวที่พัทลุง แต่ไม่ทราบว่าน้องกลับมาอยู่กับแม่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้น้อง ทะเลาะกับพี่สาวเนื่องจากน้องเอแอบหนีเที่ยวกลางคืนแล้วพี่สาวดุ เพราะน้องเอ จะออกไปหาเพื่อนตอนเที่ยงคืน แต่พี่สาวห้าม จึงทะเลาะกันกับพี่สาว พี่สาวเลยขู่ว่าถ้าดื้อแบบนี้จะให้กลับไปอยู่กับแม่  พี่สาวเลยเอาน้องมาส่งกับแม่น้อง แม่น้องจึงบอกว่าให้เรียนที่โรงเรียนใกล้บ้าน แต่น้องไม่อยากเรียนน้องอยากกลับไปหาเพื่อนน้องที่พัทลุง แม่ก็บอกว่าถ้าอยู่บ้านเรียนที่บ้านก็พอ จะส่งเสียได้ แต่ถ้าไปอยู่พัทลุงค่าใช้จ่ายเยอะจะไปอยู่หอก็อันตราย แต่น้องไม่ยอม 

ตั้งกก.สอบข้อเท็จจริงปมนร.วัย14ผูกคอดับ วอนสังคมอย่าลงโทษครูอย่างเดียว

ญาติน้องเอ กล่าวว่า แม่จึงหาเงินให้เพื่อที่น้องจะได้ไปเรียนที่พัทลุง  พอได้เงินมาเพื่อให้น้องไปเรียนที่พัทลุง แม่จึงคุยกับครูฝ่ายปกครองโรงเรียนที่พัทลุง ครูบอกกับแม่ว่าเด็กผู้หญิง อายุ 14-15 ปีจะมาเรียนที่นี่คนเดียวมันอันตราย คืออยากให้น้องเรียนที่นั่นอยากให้น้องอยู่กับแม่มากกว่า พอน้องรู้น้องก็ผิดหวังอย่างมาก เพราะน้องเก็บเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเพราะแม่บอกกับน้องว่าตอนนี้หาเงินได้แล้วให้น้องกลับไปเรียนที่พัทลุง พอไม่ได้ไปน้องก็ผิดหวัง

“ยืนยันว่าเรื่องที่แม่น้องไม่สนใจนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะก่อนหน้านี้ที่น้องอยู่กับพี่สาวที่พัทลุง ถ้าน้องต้องการอะไร บอกแม่ แม่ก็จะหามาให้ แต่น้องอาจจะต้องการความรักมากกว่า ส่วนเรื่องที่แม่น้องเล่นการพนันนั้นยอมรับว่า เป็นเรื่องจริง และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ครอบครัวแตกแยก ซึ่งน้องจะไม่ชอบให้แม่เค้าเล่นการพนัน” ญาติน้องเอ กล่าว

ญาตินน้องเอ กล่าวว่า ส่วนตัวแล้วตัวเองคิดว่ามี 2 สาเหตุที่ทำให้น้องคิดฆ่าตัวตาย  1. น้องผิดหวังที่อยากจะกลับไปเรียนที่โรงเรียนเดิมเพราะน้องติดเพื่อนมาก เนื่องจากครูที่มาพูดอาจทำให้น้องเข้าใจผิดหรือไม่ ส่วนตัวแล้วก็ไปเข้าใจว่าครูมาพูดแบบไหน 2.ส่วนเรื่องที่มีข่าวออกมาว่า พี่คนที่ดูแลน้องทำร้ายร่างกายนั้น ก็อยากถามว่าถ้าน้องหนีเที่ยวกลางคืน ผู้ปกครองจะไม่สามารถทำโทษเด็กได้เลยหรอ เพราะน้องจะหนีเที่ยวกลางคืนหลายครั้งมาก โดย 3 วันก่อนเกิด เหตุเห็นน้องโพสต์ว่า อยากจะตายก็ตายไม่ได้  ตัวเราเองก็เลยทักน้องไป เราคิดว่าน้องโพสต์แปลกๆ น่าจะไม่มีเงินจ่ายเราจะโอนเงินให้น้อง แต่น้องไม่ตอบ แต่เราไม่คิดว่าน้องจะทำจริงๆ และไม่รู้ว่าน้องได้กลับไปอยู่กับแม่น้องแล้ว

ญาติ ด.ญ.เอ กล่าวว่า  ข่าวที่ออกไปนั้นเขียนข่าวมั่วไปหมด อยากให้สังคมมองในอีกแง่มุมหนึ่งว่า ที่เขาตีเขาดุนั้นเพราะว่าอะไร  เพราะน้องดื้อมาก จะไม่ให้ตีไม่ให้ดุไม่ให้ด่าเลยก็ไม่ใช่ อยากให้สังคมเห็นใจครอบครัวด้วย ส่วนเรื่องที่แม่ติดการพนันยังไง คนเป็นแม่ ลูกเขาเสียเขาก็เสียใจมากแล้ว อยากให้สังคมหยุดประณามแม่น้อง และหยุดประณามทุกคน ซึ่งทุกคนในครอบครัวเสียใจที่น้องจากไปไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ ส่วนทางโรงเรียนได้นำเงินมาช่วยงานศพน้อง ส่วนอาจารย์ บอกว่าไม่อยากให้เป็นแบบนี้  อาจารย์พยายามช่วยเหลือเด็กถึงที่สุดแล้ว ส่วนคลิปเสียงที่เคยได้ฟังนั้นพอได้ฟังแล้วทางเราก็ไม่โอเค เพราะค่อนข้างพูดแรงเกินไป  แต่เราก็ไม่อยากจะไปเอาเรื่องอะไรครู เพราะน้องก็เสียไปแล้ว เราอยากอยู่แบบสงบๆ