เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. เพจ World Forum ข่าวสารต่างประเทศ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ไต้หวัน คนไทยฆ่ากันเองปมขัดแย้งธุรกิจ ยัด 2 ศพสามีภรรยาท้ายรถ BMW  และพบว่าหญิงผู้ตายตั้งครรภ์แฝด 5 เดือน (รวม 4 ศพ) ผู้ต้องหาเป็นเพื่อนสนิท หนีกลับไทย

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่  10 มิถุนายน 2565  ตำรวจได้รับแจ้งมีกลิ่นเหม็นคลายกลิ่นศพ บริเวณลานจอดรถสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน  พบรถเอสยูวี  BMW X4 มีน้ำเหลืองไหลออกจากท้ายรถ ตรวจสอบ พบศพคู่สามีภรรยาตั้งครรภ์แฝดยัดท้ายรถ บริเวณศีรษะถูกตีด้วยของแข็ง สภาพศพเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ภายในรถ คาดว่าผู้ตายถูกทำร้ายมาจากที่อื่นแล้วเอาศพมายัดท้ายรถ

 ข้อมูลผู้ตาย หญิงไทยได้สัญชาติไต้หวัน ฝ่ายชายมาจากอุบลราชธานี หญิงผู้ตายเดินทางมาศึกษาต่อที่ ไต้หวัน เคยทำงานเป็นล่ามมาก่อน เป็นที่รู้จักกันในนามล่ามมี่ สามีชื่อนายประเสริฐ แรงงานไทยเรียกกันว่า เฮียมาร์ค ทำข้าวกล่องส่งขายแรงงานไทยในโรงงานเถาหยวน ผู้ต้องหาสังหารเป็นคนบ้านเดียวกันที่ผู้ตายไว้ใจทํางานเป็นล่ามอยู่ที่ไซต์งานก่อสร้างแห่งหนึ่งที่เขตภู่เฉิง นครนิวไทเป และเป็นลูกหนี้ยืมเงินจากผู้ตายไปปล่อยกู้ให้แรงงานไทย สันนิษฐานว่าเกิดความขัดแย้งในเรื่องการกู้เงินและผลประโยชน์ รวมถึงธุรกิจเกี่ยวกับจัดหาแรงงาน จนเป็นเหตุนําไปสู่คดี ฆาตกรรม

ทั้งสามนัดเจรจาปัญหาธุรกิจในวันที่ 8 มิถุนายน ก่อนคู่สามีภรรยาจะหายตัวไป

คนร้ายได้ขับรถมาจอดทิ้งศพในเวลา 04.50 น.บริเวณลานจอดรถ สถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวนและรีบเดินลงสถานีหายตัวไป  กระทั่งตำรวจพบศพในวันที่ 10 มิถุนายน 

จากการตรวจสอบล่าสุดคนร้ายชายได้หนีกลับไทยด้วยสายการบิน STARLUX เที่ยวบิน JX741 เวลา 10.30 น. 9 มิถุนายน อยู่ระหว่างประสานจากกรมตำรวจไต้หวันติดตามคนร้าย

#เพิ่มเติมข้อมูล

 เพิ่มเติมข้อมูลคนร้าย  …หญิงผู้ตาย สนิทกับคนร้ายเพื่อนร่วมชั้นสมัยเรียนมัธยม ประมาณอายุ 15 ปี ทั้งหมดมาตั้งรกรากในไต้หวัน (น่าจะได้สัญชาติไต้หวันแล้วทั้งผู้ตายและคนร้าย ) หลังเรียนจบเป็นล่าม และ มี บ.ธุรกิจจัดหาแรงงาน ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับแรงงาน  หุ้นส่วนกัน

 การสังหารจากปมธุรกิจ  คนร้ายไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า

เวลาสังหาร 8 มิถุนายน หลังเวลา 22.00 น. ที่หอพักแรงงานต่างชาติร้าง (คนร้ายเปลี่ยนเสื้อผ้า 2 รอบ คนละสีหลังลงมือสังหาร )

เวลา 04.50 น. 9 มิถุนายน เคลื่อนย้ายศพมาทิ้งโดย BMW ของผู้ตายอย่างใจเย็น(ข้อมูลวิเคราะห์ตำรวจ) คนร้ายไม่ขับรถไปจอดใกล้สนามบิน และเลือกตรงข้ามสถานีรถไฟ เพราะจะตบตาเจ้าหน้าที่ว่าหลังก่อเหตุ คนร้ายหนีทางรถไฟ ไปภาคเหนือหรือภาคใต้ ….แต่คนร้ายเลือกนั่งแท็กซี่มาสนามบินพร้อมเป้ มีหนังสือเดินทาง อย่างใจเย็นหลังจากนั้น 5 ชั่วโมงต่อมาเขาขึ้นเครื่องออกจากไต้หวัน กลับเมืองไทย และตำรวจพบศพผู้เสียชีวิต วันที่ 10 มิถุนายน 2565

ขอบคุณภาพและข้อมูลจากเพจ World Forum ข่าวสารต่างประเทศ