จากกรณีที่ นายณัฎนนท์ ศรีก่อเกื้อ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เขต 7 จ.สงขลา ร้องเรียนต่อคณะกรรมาการศาสนาศิลปวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ถึงการที่ศาลแพ่งพระนครใต้ ได้มีคำสั่งถึงสำนักงานบังคับคดี อ.นาทวี จ.สงขลา เพื่อให้ยึดที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งวัดวังใหญ่ ต.วังใหญ่ อ.นาทวี จ.สงขลา ขายทอดตลาด เพื่อนำเงินไปชดใช้ให้กับโจทย์ผู้ฟ้องคือ บริษัท ธนบุรีลิสซิ่ง ซึ่งกลายเป็นข่าวที่สร้างความสนใจให้กับประชาชนโดยเฉพาะบรรดาพุทธบริษัทเป็นอย่างยิ่งเพราะกรณีการยึดวัดเพื่อขายทอดตลาดยังไม่เคยปรากฏขึ้นในประเทศ

นายบรรจง เกตศรัทธา นักกฎหมาย ซึ่งเป็นทนายชื่อดังของ จ.สงขลา เปิดเผยว่า เนื่องจากนางอำไพ และหลานได้ไปซื้อรถเบนซ์ จากตัวแทนจำหน่ายแห่งหนึ่ง โดยมีบริษัท ธนบุรีลิสซิ่ง เป็นไฟแนนซ์ ตั้งแต่ปี 40 และไม่มีการการผ่อน ดังนั้นจึงถูก เจ้าหนี้ฟ้องเรียกค่าเสียหาย เมื่อมีการสืบทรัพย์พบว่านางอำไพ มีที่ดินอยู่ที่ ต.วังใหญ่ อ.นาทวี จ.สงขลา จึงได้มีการร้องให้ศาลยึดเพื่อขายทอดตลาด ซึ่งศาลเองและบริษัทเองอาจจะไม่ทราบมาก่อนว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ตั้ง วัดวังใหญ่ เพราะถ้ามีการจดทะเบียนยกที่ดินให้กับวัดกับที่ดินอำเภอ หรือกรมศาสนาอย่างถูกต้อง ศาลจะไม่มีอำนาจในการยึดที่ดินวัดไปขายทอดตลาดได้

ประเด็นปัญหาทั้งหมดคือ วัดวังใหญ่ ก่อตั้งขึ้นโดยที่เจ้าของที่ดินได้มีการอนุญาตให้สร้างวัดในที่ดินแปลงดังกล่าวได้ แต่เจ้าของที่ดินยังไม่ได้โอนที่ดินแปลงดังกล่าวให้กับวัดเพื่อจดทะเบียนเป็นวัด หรือเป็นธรณีสงฆ์ ซึ่งเป็นความบกพร่องของวัดเอง ซึ่งตามกฎหมายเมื่อวัดถูกยึด กรรมการวัด ต้องเร่งดำเนินการในการรวมรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อไปคัดค้านการขายทอดตลาดกับ สำนักงานบังคับคดีในพื้นที่

ความคืบหน้าวันที่ 7 พ.ย. นางทัศนีย์ เปาอินทร์ รองอธิบดีกรมบังคับคดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยถึงกรณีศาลสั่งบังคับขายทอดตลาดวัดวังใหญ่ เนื้อที่ 27 ไร่ ตั้งอยู่ กม.40 ถนนสาย 42 เพชรเกษม หมู่ 10 ตำบลนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา โดยศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้มีหมายบังคับคดี ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการยึดทรัพย์ ว่า กรณีดังกล่าวเป็นการบังคับคดีตามคำพิพากษาของของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ คดีหมายเลขแดงที่ 6897/2542 โดยเจ้าหนี้โจทก์ยื่นคำร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการยึดที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก) เลขที่ 4156, 4644 ตำบลนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา

มีชื่อนางอำไพ อัมพุกานน จำเลย เป็นผู้ถือสิทธิครอบครองร่วมกับ นายไสว ณ พัทลุง เมื่อกรมบังคับคดีทราบเรื่องดังกล่าวจึงได้มอบหมายให้นายเสรี ชูเพ็ง ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดสงขลา สาขานาทวี ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในทันที ซึ่งการตรวจสอบพบว่าที่ดินที่ยึดไว้เป็นที่ตั้งของวัดวังใหญ่ตามที่เป็นข่าว จึงได้ประสานไปยังโจทก์ให้มาแถลงยืนยันข้อเท็จจริงและความประสงค์ในการบังคับคดีต่อไปหรือไม่อย่างไร โดยโจทก์จะมาแถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีจังหวัดสงขลา สาขานาทวี ในวันที่ 8 พ.ย.นี้ ซึ่งกรมบังคับคดีพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายและจะได้รายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป