กรณีสาวพิจิตร ถูกแทงเสียชีวิตที่บริเวณหน้าลิฟต์ชั้น 7 คอนโดเมืองทอง ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงกลางดึกของวันนี้ (26 ธ.ค.) คืบหน้าล่าสุด น.ส.มนัสชนก นาขำ อายุ 38 ปี ญาติของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่คอนโดที่เกิดเหตุเพื่อเก็บข้าวของของผู้ตายในห้องพัก โดยจะนำร่างของผู้เสียชีวิตจะไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ที่วัดพระงาม จ.นครปฐม และในวัน 28 ธ.ค. จะนิมนต์พระมาทำการเชิญวิญญาณผู้ตายที่จุดเกิดเหตุ

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวชายผู้ต้องสงสัย ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่ชั้น 3 อาคารเดียวกับที่เกิดเหตุมาสอบปากคำ หลังจากเจ้าหน้าที่ไปพบหลักฐานบางอย่าง ที่เชื่อมโยงในคดีนี้  โดยตลอดทั้งคืนจนถึงช่วงเย็นที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุ ฝ่ายสืบสวนพบเบาะแสบางอย่าง จนนำไปสู่การคุมตัวชายวัย 41 ปีมาทำการสอบสวนเพิ่มเติม เบื้องต้นเจ้าตัวยังให้การภาคเสธ 

ต่อมาในเวลา 22.00 น.วันที่ 26 ธ.ค. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยภายหลัง เดินทางดูสถานที่เกิดเหตุ  ว่า ตอนนี้ได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 9 คน โดยทุกคนให้การเป็นประโยชน์ ล่าสุดสามารถคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 1 คน พบเป็นชาย 41 ปี พบเป็นคนที่อาศัยอยู่ภายในตึกเดียวกับ ผู้เสียชีวิต อาศัยอยู่ที่ชั้น 3 ห้องเลขที่ 9 ซึ่งอยู่ใกล้บันไดหนีไฟ

จากแนวทางการสืบสวนของตำรวจพบว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้ เห็นผู้เสียชีวิตเดินลงมาบริเวณด้านล่าง  ซึ่งเจ้าตัวเดินสวนขึ้นลิฟต์ไป ซึ่งได้หลักฐานจากกล้องวงจรปิด   จากนั้นเขาได้เดินขึ้นห้อง และเปลี่ยนเสื้อจากสีขาว เป็นสีน้ำเงิน และเดินเข้าห้องของผู้เสียชีวิต เพื่อไปดักรอภายในห้อง หวังข่มขืน คาดว่าห้องของผู้เสียชีวิตอาจไม่ได้ล็อกประตู โดยไปหลบซ่อนตัวในตู้เสื้อผ้า รอจนผู้เสียหายกลับเข้ามาในห้องพัก จนกระทั่งผู้เสียชีวิตกลับเข้ามาที่ห้อง ผู้ก่อเหตุได้ออกมาจากตู้เสื้อผ้าและพยายามที่จะล่วงละเมิดทางเพศ แต่ผู้ตายขัดขืนต่อสู้ ผู้ก่อเหตุจึงได้ใช้มีดปลายแหลมที่พกติดตัวมาแท่งเข้าที่ต้นขาผู้ตายไป 1 ครั้ง ก่อนที่จะเดินเท้าเปล่าเปื้อนเลือดหลบหนีออกมาจากห้อง ลงมาทางบันได้หนีไฟด้านข้างจนมาเจอพยานที่ชั้น 6 จากนั้นหลบหนีลงบันไดมาที่ชั้น 3 ผ่านห้องตัวเองไปหยุดที่ราวตากผ้ากลางอาคารที่ชั้น 3 และเดินวนไปขึ้นบันได้หนีไฟกลางตึกขึ้นมาที่ชั้น 5 โดยมีคราบเลือดตลอดทางเดิน จนกระทั่งคราบเลือดมาหายไปที่หน้าห้องว่างที่ชั้น 5 เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบไปพบเสื้อสีน้ำเงินเปื้อนคราบเลือด และปลอกมีดถูกทิ้งไว้ในชักโครกของห้องดังกล่าว 

ค้นครบ244ห้องยังไร้เงามือแทงสาวพิจิตร ตร.ไม่ยอมแพ้!มั่นใจอยู่ในตึกเช็กวงจรปิดล่า

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อม และเคาะประตูห้องพิสูจน์ทราบตัวบุคคล หาตัวผู้ต้องสงสัยทุกห้องตั้งแต่หลังเกิดเหตุ พร้อมทั้งจัดทำประวัติ และถ่ายรูปตัวบุคคลไว้ทุกราย จนกระทั่งฝ่ายสืบสวนไปพบเบาะแสของชายต้องสงสัยรายหนึ่งตามภาพวงจรปิดที่ปรากฏว่า เป็นบุคคลที่เคยขึ้นไปเดินเปิดประตูตามห้องพักที่ชั้น 8 มาแล้ว ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จึงย้อนกลับมาตรวจสอบรูปพรรณสันนิฐาน ที่ทำประวัติผู้พักอาศัยในคอนโดอีกครั้งทุกราย เพราะมั่นใจว่าคนร้ายเป็นคนที่พักอาศัยในคอนโดแห่งนี้ จนกระทั่งไปพบผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไปเรียกตรวจที่ห้องพัก เจ้าตัวออกมาพบในลักษณะเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ จึงซูมดูที่รูปถ่ายและพบบาดแผลรอยขีดข่วนที่นิ้วกลางมือข้างซ้าย จึงกลายเป็นหลักฐานสำคัญ ที่เชื่อว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้น่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ จึงเชิญตัวมาสอบปากคำและประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าเก็บหลักฐานภายในห้องเพื่อหาคราบเลือด ตามห้องน้ำภายในห้องพักชายคนดังกล่าว ซึ่งผลปรากฏหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันพบคราบเลือดที่ห้องน้ำ อ่างล้างหน้า และภาชนะตักน้ำบางอย่างภายในห้องพักของชายต้องสงสัย

กระทั่งล่าสุดชายต้องสงสัยคนดังกล่าวได้ยอมเปิดปากรับสารภาพแล้วว่า ได้กระทำการดังกล่าวจริงเนื่องจากจำนนต่อหลักฐาน โดยอ้างว่าขณะก่อเหตุอยู่ในอาการมึนเมา และเกิดอารมณ์เนื่องจากภรรยาเพิ่งคลอดลูกได้เพียง 15 วัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีดไปในเมืองหรือหมู่บ้านสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรก่อนควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป