เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (26 กพ.65) ที่ สภ.เมืองนนทบุรี นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน คุณแม่แตงโม เข้าพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เพื่อขอเอกสารไปดำเนินการเรื่องทรัพย์สินมีค่าในตัวแตงโมตอนนี้ทรัพย์สินยังไม่ได้คืน

นางภนิดา กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้คำขอโทษจากผู้จัดการ และไม่ได้ไปที่นิติเวช ทางมือถือของน้องแตงโมตอนนี้อยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ล่าสุดยังมีภาพที่ลบอยู่ ซึ่งตนไม่ทราบเลย จึงขอเอกสารเพื่อไปรับสร้อยน้องแตงโม

นางภนิดา กล่าวว่า เรื่องบาดแผลของศพ ด้านขาด้านซ้ายเห็นบาดแผลของน้องโมมีรอยเลือดอยู่ เป็นรอยยาวใหญ่มาก และที่หน้ามีเลือดติดอยู่ แต่ใบหน้าบาดแผลไม่มี หน้าตาไม่สมบรูณ์แบบ พอญาติๆ ทุกคนเห็นใจสลาย แม่รับไม่ได้ตอนนี้ได้กำลังใจเยอะ ก็ดีใจที่มีคนช่วย ส่วนร่างน้องจะฝากกับโรงพยาบาลตำรวจไว้ 10 วัน ในวันที่ 9 จะมีการแต่งหน้าน้อง ก็เชิญทุกคนให้มาร่วมงานศพกันทุกๆคน ขอบคุณที่เสนอข่าวด้วยความเป็นจริง เพราะแม่ก็เป็นคนจริงและจะพูดความจริง ไม่ใช่คนโกหก แม่เป็นลูกทหารจะมีความอดทนและมีระเบียบ มีความคุ้นเคยกับผู้สื่อข่าวจึงไม่กลัวกับการสัมภาษณ์ ไม่ได้กลัวเหมือนบางคน ทำไมผู้จัดการไม่บอกแม่ว่าน้องตกน้ำ จนเจอศพโมแล้ว ผู้จัดการก็ยังไม่ติดต่อมา แล้วก็ไม่อยากเปิดเผยว่าลูกเสียชีวิตแล้ว”

“แม่แตงโม” เผยกำหนดพิธี จะทำให้ลูกดีที่สุด เชิญแฟนคลับไว้อาลัย

นางภนิดา กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุ มีคนมาสะกิดว่ามีคนสำคัญรออยู่แล้วน้องโมก็รออยู่ด้วยให้เปลี่ยนท่าน้ำคุย เพราะไม่มีคนและให้หนีนักข่าว ซึ่งตนไปก็ไม่เห็นมีใคร มีแค่เพื่อนน้องโมตอนนี้แม่จะพูดความจริงทั้งหมด เขามาขอว่าคุณแม่ไม่ต้องให้ข่าวได้ไหม และโน้มน้าวจิตใจ ซึ่งแม่คิดว่าอะไรจะเกิดก็เกิด ไม่ต้องโกหกกัน และก็เพื่อนน้องโมก็ค่อยๆหายไปทีละคน เพราะแม่สวนไปด้วยคำพูดแรง แต่คนที่มาเสี้ยมให้เพื่อนน้องโมมาพูดแบบนี้คือใคร ซึ่งวันนั้นฮิปโป นุช เป็นคนพูดซึ่งไม่รู้ว่าใครสั่งให้เขาทำแบบนี้ ลูกเราตายทั้งคนจะไม่ให้ข่าวได้ไง

ก่อนหน้านั้นในช่วงบ่าย หลังพบร่าง ‘แตงโม นิดา’ แล้ว คุณแม่แตงโม กล่าวระหว่างเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า อยากคุยกับตำรวจเรื่องที่ยังสงสัย 3 เรื่อง คือ เรื่องไม่มีชูชีพ, เรื่องเรือ และการว่าจ้างวันนั้น ซึ่งตนติดใจทุกเรื่อง

การว่าจ้างแตงโมไปถ่ายแบบในเรือ ใครจ้าง ใครจ่ายเงิน อันนี้ต้องสืบให้รู้ เพราะวันนั้นลูกแต่งตัวสวยมาก ไม่ใช่การนัดไปทานข้าวธรรมดา แต่ใส่ชุดที่เหมาะสำหรับไปถ่ายรูป ขณะที่คนบนเรือ แม่แทบไม่รู้จักใครเลย วันนี้เป็นวันที่ 3 แล้วจนเจอแตงโม แต่กระติก ผู้จัดการน้อง ไม่เคยโทรฯหรือติดต่อมาหาแม่เลยสักครั้งเดียว สงสัยว่าทำไมกระติกไม่บอกแม่ว่าพาแตงโมไปถ่ายรูปแล้วตกเรือ ที่ผ่านมาเวลาถ่ายงาน บางงานแม่ก็ไปด้วย แต่ถ้างานในกรุงเทพฯ บางงานเขาก็ไม่ได้แจ้ง แต่ถ้าการไปขึ้นเรือแบบนี้ก็ควรจะต้องแจ้งกัน แต่นี่ไม่บอกอะไรเลย กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่บอก การที่กระติกไม่บอกแม่เรื่องพาแตงโมลงเรือ สงสัยว่าปิดบังอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่บอก

“ก่อนหน้านี้ จะมีกลุ่มเพื่อนผู้หญิงแตงโมกลุ่มที่เป็นช่างแต่งหน้าทำผม ติดต่อแม่มาวันแรกที่อยู่ท่าเรือ โดยพวกเขาพยายามดึงเราออกมา แล้วอ้างว่าจะพาไปพบแตงโมและบุคคลสำคัญ จึงตัดสินใจขึ้นรถไป สรุปคือเป็นพวกเขาเองที่ต้องการให้เราไม่ให้สัมภาษณ์ข่าว โดยไม่ทราบว่าใครสั่ง ซึ่งก็ไม่อยากปรักปรำใคร”

คิดว่าวันนั้นในเรือ อาจจะมีเรื่องทะเลาะกัน เพราะมีภาพนึงที่แตงโมนั่งเศร้าอยู่คนเดียว และเป็นไปไม่ได้ที่แตงโมจะไปนั่งปัสสาวะท้ายเรือ ทั้งน้องยังใส่ส้นสูง เป็นไปไม่ได้ที่น้องจะไปเปิดก้นแบบนั้น ถ้าพูดกันตรงๆ ก็คิดว่าแตงโมไม่ได้พลัดตกน้ำด้วยอุบัติเหตุ อาจจะมีปัญหากันบนเรือ”

“ที่ผ่านมาเราเห็นมาเรื่อยๆ ก็คิดว่าเขาเป็นเพื่อนกัน เป็นผู้จัดการให้กัน แต่เราก็เห็นอะไรมาหลายอย่างที่เขาไม่สุภาพกับแตงโม เขาไม่ได้รักและจริงใจกับน้องโมจริง” นางภนิดา กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจากเพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว