จากกรณี ตำรวจได้มีการเรียก กระติก-อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม และ แซน-วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ผู้ที่อยู่บนเรือ มาสอบปากคำเพิ่มเติม จากนั้นทั้งคู่มาแถลงข่าว ร่วมกับ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1. เพื่อตอบคำถามในสิ่งที่หลายคนสงสัย ในช่วงนาทีเกิดเหตุ ‘แตงโม นิดา’ พลัดตกเรือ เกิดอะไรขึ้น? โดยทางกระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม บอกว่า หลังเกิดเหตุไม่ได้โทรศัพท์แจ้งแม่และพี่ชายของ แตงโม เพราะไม่สนิทกันนั้น

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 27 ก.พ. นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน คุณแม่ของดาราสาว แตงโม-นิดา ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน โดยนางภนิดา กล่าวว่า ถ้าหากไปนึกย้อน หากเป็นจริงในสิ่งที่เขาทำ ก็จะรู้ว่าเขานั้นได้ทำร้ายน้องโมทั้งร่างกายและจิตใจจริง เขาไม่ได้มีความจริงใจกับลูกเรา เพียงแต่คุณแม่ยังพูดไม่ได้ขอให้เป็นเรื่องของทางตำรวจ ซึ่งคุณแม่ก็ยังไม่เชื่อว่าแตงโมจะไปปัสสาวะบนเรือ เพราะชุดของแตงโมนั้นมันรัดแคบ 

อย่างไรก็ตาม ตนมองว่า คนเราหากอยากจะพ้นผิดต้องพูดความจริงหนักจะได้เป็นเบา แต่นี่ยังโกหกอยู่ โกหกนักข่าว คนทั้งประเทศแบบนี้มันไม่รอดหรอก ในส่วนประเด็นความสัมพันธ์ของคนในเรือ ที่บอกว่าเป็นเพื่อนกับน้องโมมานาน คุณแม่บอกเลยว่าคุณแม่ ไม่เคยรู้จัก ซึ่งเพื่อนของน้องโมนั้นมีมากหลายระดับ เพื่อนน้องโมทุกคนจะมีรหัสเข้าบ้าน

“แม่เชื่อว่า น่าจะมีหลายคนที่ร่วมกันทำร้ายร่างกายและจิตใจของน้องแตงโม ส่วนจะเป็นใครบ้างเป็นผู้หญิงผู้ชายต้องถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งสาเหตุที่เชื่อแบบนั้นเพราะว่ามีบุคคลๆหนึ่งที่น่าเชื่อถือ เป็นเพื่อนสนิทของคุณแม่ส่งเอกสารมาให้คุณแม่ดู ซึ่งเป็นข้อความที่คุณแม่เห็นคุณแม่ก็ตกใจเลย เอามาให้ตำรวจดูแล้วช่วยตรวจสอบ เป็นข้อความที่เขียนใน แอพพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งในวันนั้นกระติกบอกกับโมว่าไปทานข้าว แต่หลังจากนั้นขึ้นไปบนเรือมันเป็นคนละเรื่อง และทำให้น้องโมโหไม่พอใจจนมีปัญหากันบนเรือ นั่งหน้าบึ้งเหตุการณ์บนเรือตึงเครียด ซึ่งเป็นเรื่องที่คุณแม่ได้รับเอกสารมา อย่างไรก็ตามเป็นสิ่งที่เขากลับปฏิเสธก็ได้แต่ข้อเท็จจริงใครจะรู้บ้างว่าข้อเท็จจริงที่กระติกไม่ยอมพูดมันอยู่ในใจเขาแต่เขาไม่พูด ตอนนี้คุณแม่รู้แล้ว ตอนนี้ผ่านมาสี่วันตั้งแต่เกิดเรื่องคุณแม่ไม่เคยได้คุยปกติ ไม่เคยได้ยินซักประโยคว่าตอนนี้ลูกคุณแม่เสียแล้วนะ ไปนั่งเรือกับหนูแล้วเกือบตกเรือ ไม่มีคำพูดแบบนี้ออกมาจากปากกระติกเลย

ในส่วนที่เขาพูดว่าการที่แตงโมเสีย เงินหายงานเขาก็หาย ในส่วนนี้ไม่ต้องมาพูด เขาก็ไปหาอย่างอื่นทำได้ ในส่วนประเด็นของลูกของกระติก ที่บอกเป็นลูกบุญธรรมของแตงโมนั้น ขอชี้แจงว่าไม่ได้มีการจดรับรองเป็นบุตรบุญธรรมแต่อย่างใด และน้องโมก็พูดตลอดว่าน้องโมรักอีสเตอร์ รับปากว่าจะส่งเสียเลี้ยงดู ซึ่งก็ได้ส่งแล้วส่งเรียนโรงเรียนแพงๆ ค่าเทอมหลายหมื่น ซึ่งหากมีการเซ็นเราก็สามารถที่จะยกเลิกได้ เพราะตัวของน้องโมได้เสียไปแล้ว