จัดเป็นอีกหนึ่งรายการที่เกาะติดการไขปมการเสียชีวิตของดาราสาว แตงโม นิดา อยู่ตลอดสำหรับรายการโหนกระแสที่ล่าสุดมีการสัมภาษณ์ แอนนา ทีวีพูล, ฮิปโป เพื่อนสนิทแตงโม มาพร้อมผู้เชี่ยวชาญ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงศ์ พูตระกูล หรือ อาจารย์โต้ง ผู้ช่วยอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยา ม.รังสิต และ รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว รวมทั้ง บอล ธนกฤต เจ้าของอู่เรือมาพูดคุยในรายการด้วย โดยมีบางช่วงบางตอนน่าสนใจ

แอนนา เผยว่า “เราสนิทกับแตงโม แต่ไม่ค่อยสนิทกับกระติกค่ะ คนรู้จักมากกว่า เพราะก่อนหน้านี้แตงโมเคยมาคุยว่าแอนนามาลองเป็นผู้จัดการส่วนตัวฉันมั้ย ก็ถามว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า เขาบอกหลังๆ กระติกอาจหางานให้เขาไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เขาอยากได้งานมาจ่ายค่าบ้าน ค่ารถ อยากปลดหนี้ แอนนาก็เลยบอกว่าโอเค อย่างนั้นได้ แล้วกระติกล่ะจะทำยังไง แตงโมบอกว่าอาจต้องคุยกับกระติก ให้กระติกหยุด ซึ่งแตงโมก็แชตไปคุยกับกระติก แล้วเหมือนไม่ลงตัว เพราะกระติกก็ไม่ยอม บอกว่าโมเธอให้ฉันเดือนละหลักพัน ประมาณ 5-6 พัน ไม่รวมเปอร์เซ็นต์ที่จะได้งานนะคะ ถ้าเธอให้ฉันออกอีก ฉันจะกินอะไร แตงโมเลยถามแอนนาว่าจะเอาเท่าไหร่ แอนนาเลยบอกว่าไม่เอาสักบาท ยกเว้นงานไหนเธอจะให้ฉันพิเศษ ฉันขายงานให้เธอได้มาก เธอค่อยให้ฉัน แต่ส่วนใหญ่ 10 งาน แอนนาก็หักแค่ 2 งาน อีก 8 งานไม่เอา”

“ย้อนไปวันเกิดเหตุ รู้ตัวตอนสี่ทุ่ม ห้าทุ่มครึ่ง ตอน 21.55 น. แอนนาทักไปหาแตงโมบอกว่ายอดค่างานเดือนนี้ฉันต้องเอาให้เธอเนอะ เอาเลขบัญชีมา เดี๋ยวจะโอนเลย โมบอกว่าเดี๋ยว แป๊บ เขาตอบเองมั้ยไม่แน่ใจ แต่เป็นไลน์ของโม ไม่รู้โมตอบเองหรือเปล่า เพราะปกติโดยนิสัยแตงโม จะส่งรูปเลขที่บัญชีมาให้เลย เราเลยไม่แน่ใจว่าตอนนั้น ยุ่งอยู่ เพลินอยู่ หรือเที่ยวอยู่หรือยังไง 21.55 น. มีไทม์ไลน์การถ่ายรูปอยู่ ตอนนั้นถ่ายรูปถึงสี่ทุ่มกว่าๆ แต่ไลน์คุณ 21.55 น. สิบเอ็ดนาทีเขาถ่ายรูปนี้ 21.26 น. เขาถ่ายรูปอยู่ ส่วนฮิปโปแสดงว่าคุยเป็นคนสุดท้าย หนูคุยตอน 20.27 น. รับสายเอง ได้ยินเสียงแตงโม คุยกันตอน 21.56 น. ด้วยค่ะ เป๊ะเลย แล้วใครตอบ 21.56 น. วันพฤหัสถ่ายรูป นี่เครื่องกระติก โมอยู่ในภาพด้วย แต่ไลน์แตงโม ที่มีการพูดคุยในอินสตาแกรมขอเลขที่บัญชี ฉันนึกได้ต้องโอนให้เธอ ได้ แป๊บๆ เวลาเดียวกันเลย เป็นไปได้มั้ย”

แอนนา เล่าต่อว่า “พอทราบข่าวประมาณ 5 ทุ่มเศษๆ เราทราบข่าวจากทางบอร์ดนางงามด้วยซ้ำ เขาบอกว่าแตงโมตกเรือ แอนนาเลยโทรฯ หากระติก กระติกไม่รับมั้งแล้วโทรฯ กลับมาบอกว่าแตงโมตกเรือจริง ถามว่าตกยังไง พยายามถาม กระติกเหมือนวุ่นวายอยู่ แล้วแอนนาบอกจะไปสะพานพระราม 7 กระติกบอกว่าไม่ต้องมา มาก็ไม่ช่วยอะไร อยู่บ้านไป ฮิปโปก็โดนแบบเดียวกัน กลับบ้านไป มาก็ช่วยอะไรไม่ได้ เรื่องนี้พูดตรงๆ ไม่ติดใจอะไรเลย ถ้ากระติกทำตัวปกติ จะไม่ติดใจอะไรเลย แต่ความไม่ปกติกระติก อย่างเรื่องจะฟ้อง หนูไม่เคยโดน (หัวเราะ) หนูมองว่าทำไมเขาต้องให้หนูกลับ เพราะบอกหนูไม่ใช่นักประดาน้ำ เป็นนักข่าว ไม่เข้าใจว่าความเป็นนักข่าวกับความเป็นเพื่อน ต่างกันยังไง ประเด็นต่อมาที่ไม่เข้าใจคือเวลาเขาเล่า ทำไมเล่าแล้ว… พี่หนุ่มน่าจะจับอะไรได้หลายๆ อย่าง มันไม่ธรรมชาติ นี่พูดแค่กระติกนะคะ แต่ถามว่าเขาเคลียร์ได้มั้ย ในประเด็นสงสัยที่เราสงสัยอยากรู้ เขาเคลียร์ได้หมด แต่เคลียร์แบบที่เราทุกคนได้ยิน”

“เอาจริงๆเธอก็ต้องเข้าใจนะ อะไรแบบนี้ แล้วยังไงต่อ เธอกลับบ้านได้ไงตอนตีสาม กลับกันถ้าฉันเป็นเพื่อนที่โมรักขนาดนั้น ถ้าเป็นฉัน ฉันจะอยู่ตรงนั้นจนถึงตีห้าจนหกโมง ตามสัญชาตญาณคนที่ควรทำ เหมือนทีเบิร์ดทำ นี่คือสัญชาตญาณคนรู้จักและสนิทกัน เบิร์ดอยู่จน 48 ชม.ค่ะ อย่าว่าแต่เบิร์ด เพื่อนๆ ก็อยู่ตลอดเวลา เรื่องฆาตกรรมที่คนพูดกัน หนูไม่ปักใจเชื่อ แต่หนูมองว่าเรื่องนี้แปลกๆ คลุมเครือ ตรงที่ว่าทำไมเขาต้องกลับบ้านกันไปวันนั้น ทำไมกระติกบอกเราว่าห้ามไป ไม่ต้องไป มันมีเหตุผลที่มีพิรุธ ถ้าไม่มีพิรุธอะไรเหล่านี้หนูจะเข้าใจได้เลย แล้วบวกกับสัญชาตญาณความเป็นเพื่อน ไม่รู้กระติกรักโมมากแค่ไหน แต่หนูรู้ว่าโมรักกระติกมาก มากถึงขึ้นที่ว่าโมเคยโชว์เงินในบัญชีให้ดูว่ามีเท่าไหร่ และบอกว่าจะทำยังไงดี ค่ารถก็ต้องจ่าย เดี๋ยวต้องโอนให้กระติกด้วย มีค่าต่างๆ มากมาย แต่ก็ไม่เป็นไร โอนให้กระติกตามปกติ ฉันไม่กินได้ อยากให้กระติกได้ยินคำนี้ว่าโมยอมไม่มีหรือยอมอด แต่ไม่ปลดกระติกจากการเป็นผู้จัดการ ยังดูแลตลอด แม้แต่แม่บ้าน คนที่กระติกก็พาเข้ามา เขาก็ดูแลดีมาตลอด”

แอนนา เล่าเพิ่มเติมว่า “อย่างคุณแม่กับโม เขารักกันค่ะ เขาดีกันช่วงหลัง วันที่สองที่ผ่านมาหนูชวนโมมานั่งไลฟ์สดที่บ้าน โมก็เหมือนสั่งเสีย เล่าถึงดาราหลายคนที่เคยสนิทกับเขาตอนที่เขายังดังอยู่ พอมาตอนหลังเขาไม่ค่อยมีเงิน ดาราเหล่านั้นก็ไม่เคยโทรฯมาหาเขาเลยก็มี แต่ไม่เอ่ยชื่อ เขาก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจว่าครั้งนึงเคยเป็นเพื่อนสนิทกับหลายคน บางคนก็อยู่ บางคนก็หายไป ประเด็นแม่เขาบอกว่าก่อนหน้านี้เขามีเรื่องค้างคาในใจ แต่เรื่องแม่เขาปลดล็อกตั้งแต่ตอนพ่อป่วย แล้วแม่กลับมาดูแล เขารักแม่มาก หนูรู้สึกว่าแม่โอเคเลย ส่วนประเด็นกระติก ไม่รู้กระติกรักโมมากแค่ไหน แต่มองว่าถ้าเป็นเพื่อนกัน หนูเพิ่งไปนั่งเรือกันวันที่ 15 ม.ค. ให้ฮิปโปเดินน้ำหน้าด้วยซ้ำ แล้วหนูระวังหลังเพื่อไม่ให้เพื่อนตกน้ำ เพราะเพื่อนเราตัวเล็ก โอกาสตกน้ำก็มี ยังพูดเลยว่า ถ้าเธอตกน้ำ ดังกล่าวลีน่าจังเลยนะ เพราะนี่มันแม่น้ำเจ้าพระยา ยังคุยเล่นกันเหมือนเป็นลาง พอวันเกิดเหตุ หนูแค่สงสัยว่าทำไมไม่อยู่ช่วยตามหาก่อน สัญชาตญาณเพื่อนกลับบ้านได้เหรอ คิดถึงลูกเหรอ เป็นไปได้เหรอ เพื่อนเราจมน้ำ หนูไม่ได้ว่าตัวเองดีนะ แต่หนูคิดว่าถ้าโมจมตรงนั้น ถ้าหนูมีชูชีพหรือมีอะไรที่สามารถหาได้ หนูจะโดดลงไปเพื่อช่วยหา แต่นี่ไม่เห็นใครเปียกเลย”

“อย่างเรื่องแชร์ภาพร่างโม สิ่งที่โมเคยพูดไว้ เหมือนสั่งเสีย เขาบอกว่าถ้าฉันจะตาย ขอตายสวยๆ นะ ไม่อยากให้ใครเห็นสภาพฉันไม่สวย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ มีคนเอารูปโมตอนเสียชีวิต ตั้งเป็นโปรไฟล์ในทวิตเตอร์ แอนนาว่าโหดร้ายเกินไป แล้วบ้านเราควรก้าวผ่านการลงรูปคนตายได้แล้ว มันไม่ได้น่าดูและไม่ให้เกียรติผู้ตาย เป็นไปได้คดีที่จะเกิดขึ้นแอนนาประสานกับคุณแม่ เพื่อดำเนินคดีคนที่เอารูปมาปล่อย ทั้งต้นตอและคนแชร์ เพราะมองว่าถ้าผ่านไปเรื่อยๆ ต่อไปอีก 10 ปี ก็เอารูปคนตายมาลง แห่แชร์กัน แล้วบอกว่านี่คือคอนเทนต์สร้างยอดไลค์ สร้างคนกดคอมเมนต์ได้ มันควรมีจรรยาบรรณบ้าง แชร์ไม่ว่า เหมือนเอาไปสร้างคอนเทนต์สร้างกระแส พอมีคนรีพอร์ตแล้วก็เอาไปสร้างใหม่ ถามคำเดียวทำเพื่ออะไรไม่คิดเรื่องเวรกรรมกันเลยเหรอ ศีลธรรมขั้นต้น ถ้าเราตาย ใครอยากให้คนอื่นมาเห็นเราในสภาพไม่ดี”

ฮิปโป เผยว่า “เรื่องให้แม่ปิดข่าว มันเป็นความเข้าใจผิดค่ะ ด้วยการสื่อสารหรือชุลมุนต่างๆ สิ่งที่เกิดขึ้นคือเราโทรฯ หาคุณแม่ เพราะคุณแม่เพิ่งถึงสถานที่เกิดเหตุ เราเป็นห่วงความรู้สึกหนึ่ง สองเรื่องราวของอะไรต่างๆ ก็รู้สึกว่าอยากให้พูดถูกต้อง ให้ข้อมูลถูกต้อง เพราะหนูถึงสถานที่เกิดเหตุก่อน หนูก็เหมือนตามไปหาว่าพี่กระติกอยู่ไหนอยากทราบว่าตกเรือได้ยังไง ก็เป็นไปตามคลิป หนูตามไปอู่เรือก็จริง เพราะหนูทราบจากพี่กระติกว่าเขาอยู่ที่อู่เรือ ตอนตีหนึ่งกว่าๆ ไม่เกินตีหนึ่ครึ่งค่ะ เขาส่งโลเกชั่นมาว่าพี่เบิร์ดอยู่ที่นี่นะ หนูก็ไปเจอพี่เบิร์ด ก็ตามไทม์ไลน์นี้ แล้วหนูก็ถามว่าแม่อยู่ไหน เขาบอกไปเจอที่บ้านเลย หนูก็ถามว่าไปเจอที่บ้านทำไม หนูเจอพี่เบิร์ดแล้วตอนนี้ แฟนโมเขาร้องไห้ตลอด เขาเหมือนคนบ้า สติแตก เขาตะโกนเรียกโม ตะโกนทุก 5 นาทีว่าเจอหรือยัง จนลงไปหาเอง”

“ส่วนกระติก พฤติกรรมเขาแปลกๆมันแปลกตรงที่ด้วยวิสัยแตงโมที่รู้จัก สัมผัสมาในช่วง 3 เดือนสุดท้าย ถ้าเขาปวดปัสสาวะเขาจะกลั้น จนถึงที่สุด กลั้นจนเขาบอกว่าไม่ไหวแล้ว ทำยังไงดี แวะปั๊มได้มั้ย จอดได้มั้ย เขาถึงจะลงไปปัสสาวะ หรือถ้าไม่แวะจริงๆ ถ้าฉุกเฉิน ต้องไปงาน ด้วยความเป็นดาราต้องรีบ เขาจะยอมฉี่ในถุงพลาสติก แต่ตอนนั้นบนรถนะคะ ขนาดบนรถหนูยังต้องจับแขนไว้ หนูต้องจับเขาไว้ เพราะขับรถรถจะโยก จับเพื่อให้เขาปัสสาวะตรงถุงที่สุด เพราะวันนั้นเขาต้องไปงานแถลงข่าว ภาพลักษณ์เขาต้องสำคัญ ผู้หญิงคนไหนอยากมีกลิ่นฉี่ติดตัวคะ หนูบอกแค่นี้

ด้าน บอล เล่าปมร่องรอยบาดแผลที่ขาที่มีอยู่ด้านใน ลึกมากถึงกระดูก มีโอกาสกระเด็นไปโดนใบพัดเรือหรือไม่ บอล เผยว่า “ถ้าตกแรงไม่โดน ถ้าเรือมีความเร็ว ไม่โดนครับ แต่อันนี้คือเรือวิ่งช้า เวลาเรือวิ่ง ท้องเรือจะแหวกน้ำออกไปสองข้างเพื่อให้เรือลอยอยู่บนน้ำได้เดินทาง ด้านข้างยิ่งเขาบอกคุณแตงโมเอียงมาตกด้านข้าง ก็จะไปลงตรงน้ำที่บานออกจากขณะที่เรือเครื่องที่อยู่พอดี พอโดนออกปุ๊บน้ำที่โดนกระแทกก็จะตีกลับเข้ามา ลักษณะการบานของน้ำจะบานเป็นรูปตัววี พออกไปโดนปุ๊บพอกระแทกก็จะกลับเข้ามาทันที มีการจำลองจากการใช้ขวด ฟังเจ้าหน้าที่ ตร.เล่าให้ฟัง สารวัตรสอบสวนเล่าให้ฟังว่าเอาขวดผูกเชือกหย่อนไปด้านข้างเรือ พอหย่อนไปปุ๊บก็ดูดเข้าใบพัดเลย ถ้าแตงโมตกตรงนั้นก็จะเข้าแน่นอน แต่ว่าโดนอวัยวะส่วนไหนก็อีกเรื่องนึง”

ขอขอบคุณรายการโหนกระแส