เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงปลายเดือน ก.พ. กรมควบคุมโรค ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงกรมราชทัณฑ์ ให้แจ้งเตือนผู้ต้องขัง ห้ามรับประทานเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ โดยเนื้อหาในหนังสือระบุว่า กรมควบคุมโรค ได้รับแจ้งเหตุการณ์ระบาดของโรค อาหารเป็นพิษในเรือนจำมีผู้ป่วยทั้งหมด 33 ราย เสียชีวิต 1 ราย

จากการสอบสวนโรคพบว่าผู้ป่วยทั้งหมดเป็นผู้ต้องขังชาย ได้ดื่มเครื่องดื่ม ที่มีการคิดสูตรเอง โดยการนำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือผสมกับน้ำอัดลม เพื่อต้องการฉลองปีใหม่ และอยากมึนเมา ทำให้เกิดอาการเหนื่อยเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน หายใจหอบ หมดสติ ไม่สึกตัว ตามองไม่เห็น และตาบอด (1 ราย)

ทั้งนี้โดยทั่วไปเจลแอลกอฮอล์ล้างมือนิยมใช้เอทานอล (ethanol) หรือเอทิลแอลกอฮอล์ (ethyl alcohol เป็นส่วนประกอบเนื่องจากระเหยได้ดี แม้จะเป็นแอลกอฮอล์ชนิดรับประทานได้ แต่มีแอลกอฮอล์ปริมาณมากตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไป ซึ่งความเข้มข้นสูงกว่าในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วไป จึงเกิดพิษกับร่างกาย และหากมีการใช้เมทานอล (methanol) หรือเมทิลแอลกอฮอล์ (methyl alcohol) เป็นส่วนประกอบพบว่าแอลกอฮอล์ชนิดนี้มีพิษมากสามารถดูดซึมเข้าทางผิวหนังและลมหายใจ ห้ามใช้กับร่างกาย จะก่อให้เกิดอาการระคายเคืองจมูก ลำคอ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ง่วงนอน ไอ ท้องร่วง ปวดท้อง ปวดศีรษะ ง่วงซึม สายตาพร่ามัว ถ้าได้รับสัมผัสปริมาณมากจะทำให้ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้

กรมควบคุมโรค ขอความร่วมมือกรมราชทัณฑ์ ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเฝ้าระวังเหตุการณ์ดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่มีความต้องการเฉลิมฉลอง และแจ้งเตือนผู้ต้องขัง ห้ามรับประทานเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ โดยเด็ดขาด เพราะจะก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต.