เมื่อวันที่ 15 ส.ค. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่มีชื่อเป็น 1 ในรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า 3 ประเด็นที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น เป็นเรื่องที่เคยชี้แจงไปหมดแล้ว ไม่ทราบว่าจะมีประเด็นอะไรเพิ่มเติมอีก ซึ่งในส่วนของการประมูลโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของนั้น ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ เท่าที่ดูเบื้องต้นการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายทุกอย่าง ใช้วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) มีกรมบัญชีกลางเป็นผู้คุมระบบ ผู้เข้าประมูลแยกกันอยู่ และเสนอราคาเข้ามา ใครจะเสนอราคาเท่าไหร่ไม่มีใครทราบ และตนก็ไม่ได้นั่งดูอยู่ด้วย
“หากมีภาพหลักฐานว่าผู้ประมูลนั่งเสนอราคาอยู่ด้วยกัน ให้เอามาให้ผมได้เลย ผมจะสั่งยกเลิกการประมูลโครงการนี้ แต่หากผมไปสั่งการโดยที่ไม่มีหลักฐาน และทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบถูกต้อง ผมก็จะถูกฟ้องร้อง ส่วนเรื่องราคากลางเป็นราคาตั้งแต่ปี 55 แต่ปัจจุบันราคาวัสดุเพิ่มสูงขึ้นมาก ผมยังคิดว่าโชคดีมากๆ ที่มีคนมาประมูลโครงการ ถ้าไม่มีคนมายื่นต้องยกเลิก และทำราคากลางใหม่ที่ต้องสูงขึ้นกว่าเดิม และใครจะรับผิดชอบ วันนี้สิ่งที่ควรดูคือ ราคากลางมีการศึกษาตามระเบียบกฎหมาย และมีการบวกเพิ่มอะไรที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ ถ้ามีให้ชี้มาเลยว่าราคากลางแพงหรือไม่ ซึ่งหากไม่แพงแล้วทำถูกต้อง และราคาที่เสนอมาไม่เกินราคากลาง ตามกฎหมายก็ต้องให้ตามนั้น ซึ่งบางโครงการที่ผ่านมาประมูลเท่าราคากลาง หรือเกินไม่เกิน 10% ของราคากลางยังต้องอนุมัติเลย”นายศักดิ์สยาม กล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีเรื่องที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์นั้น เป็นปัญหาข้อพิพาทระหว่างรัฐกับประชาชน ข้อยุติต้องดูว่ารัฐหรือประชาชนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน วันนี้ประชาชนที่อยู่ที่เขากระโดงมีเอกสารสิทธิ์ที่ออกโดยชอบด้วยกฎหมายโดยกรมที่ดิน ดังนั้นจะไม่ให้ประชาชนเชื่อว่าถูกต้องได้อย่างไร ถ้ามองว่าไม่ถูกต้องก็ต้องไปพิสูจน์ให้ได้ว่าไม่ถูกต้องเพราะอะไร ไม่ใช่อยู่ๆ จะมาบอกว่าไม่ชอบ แบบนี้ก็กล่าวหากันได้หมด สำหรับกรณีที่ระบุว่าตนเป็นผู้แพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น ผมขอตั้งคำถามว่าเชื้อที่เกิดขึ้นเกิดได้อย่างไร มันไม่ได้มีอยู่ในประเทศไทย ซึ่งตนไม่ได้ไปต่างประเทศ ตนติดโควิด-19จากลูกน้องที่ไปเที่ยวมา ขอให้นำหลักฐานมาพิสูจน์ด้วยว่าตนไปติดเชื้อมาจากต่างประเทศ
“พอผมรู้ว่าป่วยโควิดก็กักตัว และรักษาตัวทันที จะเป็นคนแพร่เชื้อได้อย่างไร สิ่งเหล่านี้ได้เคยอธิบายไปหมดแล้ว แต่เมื่อตั้งประเด็นขึ้นมาก็พร้อมชี้แจงว่าสิ่งต่างๆ เราดำเนินการอย่างไร อย่างไรก็ตามในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น อยากให้เป็นเรื่องที่ชัดเจนว่าผมละเว้นปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติอะไรที่ไม่ชอบที่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย มีการทุจริตคอรัปชั่น ไม่อยากให้มาทำเป็นประเด็นการเมืองล่าแม่มด มันมีประโยชน์อะไร ประเทศชาติวันนี้ต้องสู้กับโควิดหนักอยู่แล้วควรจะช่วยกัน ผมเห็นนายกรัฐมนตรีเหนื่อยตลอด ก็ช่วยกันทำงาน วันนี้สถานการณ์ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายเชื่อว่าถ้าวัคซีนสมบูรณ์แล้วโลกก็จะกลับมาเหมือนเดิม เราต้องพยายามเดินไปด้วยกัน” นายศักดิ์สยาม กล่าว.
