ในช่วงหน้าฝนนี้มีหลายโรคที่สามารถติดต่อกันและระบาดได้ง่าย โดยเฉพาะโรคตาแดง ที่ติดต่อจากการสัมผัสเชื้อโรคแล้วมาโดนตา
เกี่ยวกับเรื่องนี้ รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศ กิตติรักษ์ หัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ในช่วง 2 สัปดาห์นี้มีการระบาดของโรคตาแดง หรือ โรคเยื่อบุตาอักเสบ เป็นจำนวนมาก ซึ่งปกติช่วงหน้าฝนตาแดงจะระบาดเป็นประจำอยู่แล้ว
ตาแดงเกิดจากการติดเชื้อซึ่งมีอยู่ 2 ประเภท คือ 1. เป็นการติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดเยื่อบุตาอักเสบ 2. ติดเชื้อแบคทีเรีย
โดยทั่วไปตาแดงที่เกิดจากเชื้อไวรัสจะเจอเยอะมาก เนื่องจากเกิดการระบาดหรือติดต่อจากคนสู่คนอย่างง่ายดาย ที่บอกว่าเป็นกันทั้งออฟฟิศ เป็นกันทั้งโรงเรียนมักเกิดจากเชื้อไวรัส เนื่องจากติดต่อโดยการสัมผัสดวงตาหรือสารคัดหลั่งจากดวงตา เช่น น้ำตา ขี้ตา ทั้งทางตรงและโดยอ้อม
โดยตรง คือ ถ้ามีขี้ตา หรือ น้ำตาจากตาข้างหนึ่งซึ่งมีการติดเชื้อ ไปสัมผัสตาอีกข้างหนึ่ง ก็จะทำให้ติดกันง่ายมาก ส่วนโดยอ้อม สมัยก่อนเราจะได้ยินว่า แมงหวี่ตอมตา แล้วจะทำให้เป็นตาแดง อันนั้นเกิดจากตัวแมงหวี่ไปสัมผัสกับเชื้อโรคที่อยู่ในน้ำตา หรือ ขี้ตาของคนไข้ แล้วไปตอมตาคนปกติก็จะทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสทำให้เกิดเยื่อบุตาอักเสบ
ส่วนการสัมผัสโดยอ้อม หมายความว่า คนที่มีอาการตาแดงแล้วไปจับดวงตาตัวเอง เสร็จแล้วก็ไปจับตามโต๊ะหรือเก้าอี้ แล้วคนอื่นไปจับโต๊ะ เก้าอี้ แล้วไปสัมผัสดวงตา ก็จะทำให้ติดตาแดงได้
ดังนั้นโดยธรรมชาติเยื่อบุตาอักเสบชนิดไวรัสมักจะเป็นตาแรกก่อน แล้วภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ตาอีกข้างจะระคายเคืองแล้วเป็นตาแดงตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กบางครั้งอาจจะเป็นตาแดงพร้อมมีอาการของไข้หวัดร่วมด้วย
ตาแดงจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มักจะเป็นยากกว่าไวรัส แต่ส่วนใหญ่ที่เราพบมักจะเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนจากการเป็นเยื่อบุตาอักเสบจากเชื้อไวรัสแล้ว
ตาแดงจากเชื้อไวรัส อาการเด่น คือ เคืองตา ตาแดง น้ำตาไหล แต่ถ้าตาแดงจากเชื้อแบคทีเรีย มักจะมีขี้ตาเป็นสีเขียว หรือ สีเหลือง ที่พบบ่อย คือ เริ่มต้นเป็นตาแดงติดเชื้อจากไวรัสก่อน อาการเด่น คือ คนไข้จะรู้สึกว่าระคายเคืองตา ตาแดง น้ำตาไหล หลังจากนั้นอีกไม่กี่ชั่วโมง หรือ 1 วันไปแล้วมักจะตามมาด้วยการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำ คือ เริ่มมีขี้ตาเป็นสีเขียวหรือสีเหลือง ซึ่งแบคทีเรียการติดต่อจะยากกว่า โดยมากมักจะเป็นซ้ำหลังจากติดเชื้อไวรัส
ตาแดงไม่ถึงขั้นทำให้ตาบอด เพียงแต่อาจทำให้ติดทั้งบ้าน ติดทั้งโรงเรียน หรือที่ทำงาน สำหรับอาการอันตราย คือ มีตามัวร่วมด้วย อาจจะหมายถึงกระจกตาอักเสบร่วมด้วยต้องรีบไปพบจักษุแพทย์ มิฉะนั้นอาจทำให้เสียหายต่อการมองเห็น และถ้ามีการอักเสบเยอะ เช่น มีอาการบวมบริเวณเยื่อบุตา หรือมีเลือดออกบริเวณตาขาว อาจจะบ่งบอกว่ามีอาการอักเสบรุนแรง ซึ่งควรรีบไปพบจักษุแพทย์
การดูแลรักษาเบื้องต้นต้องไม่สัมผัสดวงตา มิฉะนั้นเชื้อแบคทีเรียจากมือจะทำให้ติดเชื้อซ้ำจากการเป็นตาแดงจากเชื้อไวรัส ถ้าอาการเคืองตายังคงมีอยู่ หรือมีน้ำตาไหลมาก มีขี้ตา ควรจะไปพบแพทย์ ไม่เช่นนั้นจะเป็นหลายวันและแพร่เชื้อ ปกติถ้าเป็นจากเชื้อไวรัส แพทย์มักจะให้ยาแก้ระคายเคือง เพื่อจะได้ระคายเคืองลดลง และแนะนำหลีกเลี่ยงการสัมผัสดวงตาเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ แต่ถ้าไปพบแพทย์แล้วมีอาการตาแดงจากเชื้อแบคทีเรีย เช่น มีขี้ตาสีเขียว สีเหลืองแล้ว แพทย์จะให้ยาฆ่าเชื้อชนิดหยอดตา
สำหรับการป้องกัน คือ พยายามอย่าเอามือหรือสิ่งของใด ๆ ไปสัมผัสดวงตา โดยเฉพาะช่วงที่มีตาแดงระบาดไม่ควรใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว หรือคอน แทคเลนส์ ถ้าเป็นตาแดงแล้ว ไม่แนะนำให้ใช้ผ้าปิดตา เพราะอาจทำให้ตาอักเสบรุนแรงมากขึ้น คือคนส่วนใหญ่ชอบเอาผ้าไปปิดซึ่งไม่ดี.
นวพรรษ บุญชาญ : รายงาน