ในที่สุดฝ่ายค้านก็ได้ฤกษ์ยื่
นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจอีกครั้
งหนึ่ง หลังจากเงื้อง่าราคาแพงจะต้
องอภิปรายไม่ไว้วางใจปีละครั้
งให้ได้ และนี่ก็จะสิ้นสมัยประชุมสภาฯ แล้ว ในวันที่ 28 ก.พ. ก็ต้องรีบๆ ยื่นแล้วขออภิปรายในช่วงวันที่ 16-19 ก.พ. ซึ่งก็เห็น ส.ส.ฝ่ายค้านก็คุยโวว่า
“มีหมัดเด็ด” แต่ให้เวลา 4 วันไม่พอนี่ เห็นทีว่าน่าจะตกลงเรียนเรื่
องจับใจความกันใหม่หน่อย เพื่อจะได้ฟังแล้วเข้าประเด็
นโชะๆ ไม่ตีโวหารให้ฟังแล้วเบื่อ
เปิดชื่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิ
ปรายมา ก็มีถึง 10 คน คนแรกก็ไม่พ้นหัวหน้า ครม. 1.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ถูกยื่นอภิปรายประเด็นบริ
หารราชการแผ่นดินล้มเหลว ผิดพลาดบกพร่องอย่างร้ายแรง ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ภูมิปัญญา ไร้ความสามารถ ไร้คุณธรรม ไร้ภาวะผู้นำ ทำลายผู้เห็นต่าง ละเลยให้มีบ่อนพนันกระจายไปทั่ว ทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่
างสถาบันพระมหากษัตริย์กั
บประชาชน
ซึ่งเรื่องบ่อนการพนันนี่ ได้ข่าวว่า
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เตรียมลับดาบจะเล่นงานเอง จากคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์เอง ที่บอกทำนองว่า
“มีร้อยนายกฯ ก็แก้ไขปัญหานี้ไม่ได้” โดย
“บิ๊กตู่ เสรีพิศุทธ์” (ชื่อเล่นตู่เหมือนกัน) ยกตัวอย่างสมัยตัวเองว่าก็
ปราบปรามได้ตั้งหลายบ่อน แต่มาคราวนี้ นายกฯ มาพูดทำนองหมดปัญญา เรื่องบ่อนนี่กลายเป็นประเด็นที่
ทำตำรวจอ่วมไปพอสมควร เพราะเป็นสาเหตุของการแพร่เชื้
อโควิดระลอกใหม่
นอกจากนี้
“บิ๊กตู่ ประยุทธ์” ยังจะถูกอภิปรายเรื่องที่เคยพู
ดว่า
“พระมหากษัตริย์ไม่ทรงโปรดให้ใช้ ม.112” แต่ตอนนี้กลายเป็นมีการการจั
บตาม ม.112 บ่อยครั้งมาก ร่วม 40 คดีเข้าไปแล้ว ซึ่งนายกฯ ก็ตอบว่า
“อย่าเอามาพันกับการเมือง” ที่ผ่านมาในช่วงแรก ได้ให้โอกาส เพราะไม่ต้องการใช้ ม.112 ปิดปากคนหรือทำร้ายใครทั้งสิ้น ต้องไปดูที่ว่าสิ่งที่เขาทำมานั้
นทำซ้ำมากี่ครั้งแล้ว หากคิดว่าตัวเองถูกกฎหมายก็ต่
อสู้ด้วยกระบวนการยุติธรรม
และที่จะโดนอภิปรายอีกเรื่องคื
อโควิด ที่ฝ่ายค้านว่า เรื่องเดียวก็ล่อเข้าไปวันนึ
งแล้ว โดยเฉพาะที่น่าจะโดนคือเรื่
องความล้มเหลวในการบริหารจั
ดการโรค การที่จัดซื้อวัคซีนแพง การที่บริษัทเอกชนสยามไบโอไซเอนซ์ ได้รับสิทธิผลิตวัคซีนจากบริษั
ทแอสตราเซเนกา เป็นการเอื้อเอกชนภาคใดภาคหนึ่
งหรือไม่ จนนาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าออกมาเรียกร้
องให้เปิดสัญญา และนายกฯ ก็บอกแค่ว่า “ให้รอดูในสภา”
นักข่าวก็เป็นกังวลว่าเอาเรื่
องการเมืองมาเล่นแล้วจะมีปั
ญหาอะไรกับบริษัทแอสตราเซเนกาหรือเปล่า นายกฯ ก็ย้ำว่า “ก็อย่านำมาเกี่ยวกับการเมือง วันนี้การเจรจาการตกลงก็เป็
นไปได้ด้วยดี หากเราประโคมข่าวเรื่อยๆ ก็จะเกิ
ดปัญหาความหวาดระแวงซึ่งกั
นและกัน ผมก็ไม่อยากให้ไปอยู่ในเรื่
องของการเมือง นักการเมืองก็ต้องระมัดระวังเรื่
องการพูดจาที่ทำให้เกิดผลกระทบ หากทําให้เกิดความเสียหายทุ
กคนก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบตรงนี้
ด้วย ไม่เช่นนั้นรัฐบาลก็ทำอะไรไม่
ได้
ก็ดูท่าทาง พล.อ.ประยุทธ์น่าจะอ่านโจทย์
ออกว่าจะโดนอะไรบ้าง ที่น่าจะโดนอีกอย่างคือการจั
ดสรรงบซื้ออาวุธ ซึ่งนายกฯ ก็โยงให้เป็นเรื่องของกรรมาธิ
การงบประมาณพิจารณาไป ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็วัดกันว่า จะมีอะไรแปลกใหม่มากกว่าที่ฝ่
ายค้านออกมาโจมตีนายกฯ รายวันหรือไม่ ถ้าไม่มีอะไรใหม่ก็เหมือนฟังเรื่
องเดิมๆ เพราะ
“บิ๊กตู่” เองก็จัดเป็นนายกฯ ที่พูดเยอะให้สัมภาษณ์ทุกวัน (และแทบจะทุกเรื่อง) อยู่แล้ว
คนที่โดนต่อมาคือ 2.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ถูกยื่นอภิปรายประเด็นทำตัวเป็
นผู้มีอิทธิพล ใช้งบประมาณรัฐสร้างความร่ำรวย มั่งคั่งให้ตนเอง จงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดรั
ฐธรรมนูญ ไม่ซื่อสัตย์สุจริต มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ แสวงหาประโยชน์อันมิควรได้
โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรั
บตนเองและพวกพ้อง ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติ
ตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้
ายแรง อันนี้ บิ๊กป้อมตอบสั้นๆ ว่า ตัวเองเดินจะไม่ไหวอยู่แล้วจะมี
อะไรอีก
3.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ผิดพลาด บกพร่องร้ายแรง ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถ ไม่ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-
19 ส่งผลให้มีการแพร่
ระบาดรอบสองอย่างกว้างขวาง อำพรางการจัดซื้อวัคซีนป้องกั
นโรค เพื่อเปิดช่องให้ทุจริต แสวงหาประโยชน์บนความเดือดร้
อนของประชาชน ก็น่าจะเรื่องซื้อวัคซีนที่คงต้
องตอบร่วมกับนายกฯ ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่าพร้อมสู้
4.
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ บริหารราชการแผ่นดินบกพร่อง ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ภูมิปัญญา ไร้ความสามารถ ลอยตัวหนีปัญหา เลือกปฏิบัติ ไม่ยึดหลักธรรมาภิบาล แต่งตั้งบุคคลไม่มีคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถเพื่
อแสวงหาประโยชน์ในลักษณะแบ่
งแยกหน้าที่กันทำ ทุจริตในหน่วยงาน ไม่มีความรอบคอบ นี่ก็น่าจะโดนเรื่องหน้
ากากอนามัยขาดรอบแรก ที่มีข่าวคนของพรรคประชาธิปัตย์
ไปเกี่ยว
5.
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย บริหารราชการแผ่นดินโดยมิคำนึ
งถึงผลประโยชน์ประเทศ และความผาสุกของประชาชน แต่ใช้อำนาจในตำแหน่
งแสวงหาผลประโยชน์เพื่
อตนเองและพวกพ้อง ใช้กลไกทางกฎหมายวางแผนทุจริ
ตอย่างเป็นระบบแยบยล ปล่อยปละละเลยให้องค์กรในกำกั
บทุจริตอย่างกว้างขวาง ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม สำหรับ “บิ๊กป๊อก” นั้นน่าจะโดนอภิ
ปรายเรื่องสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขี
ยว
6.
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่เคารพหลักการสิทธิมนุษยชน ละเว้นและบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ภูมิปัญญา ไร้ความสามารถ ไร้คุณธรรมจริยธรรม ใช้อำนาจแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการประจำ ในลักษณะกดขี่ข่มเหงข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้มีบุคคลหลายรายซึ่งเป็นพวกพ้องของตนเข้าสู่ตำแหน่ง ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต
7.
นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน บริหารราชการผิดพลาดบกพร่องอย่
างร้ายแรง ไร้ประสิทธิภาพ ปล่อยปละละเลยให้มี
การแสวงหาประโยชน์จากผู้ใช้
แรงงาน ไม่กำกับควบคุมผู้ใช้แรงงานต่
างด้าวให้เป็นระบบจนเกิ
ดแรงงานผิดกฎหมายเข้ามาจำนวนมาก สร้างผลกระทบอย่างชัดเจนต่
อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเรื่องปัญหาแรงงานเถื่อนผิ
ดกฎหมายนี่ก็คงต้องช่วยตอบกั
บนายกฯ ว่าจะมีมาตรการเด็ดขาดอย่างไร
8.
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม บริหารราชการแผ่นดินโดยเห็นแก่
ผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง ไม่คำนึงถึงผลเสียหายที่เกิดกั
บประเทศชาติและประชาชน เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนผู
กขาด เพื่อให้มีสิทธิดำเนินงานในกิ
จการของรัฐ
9.
นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่
ประจักษ์ ขาดคุณธรรมและจริยธรรม ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่
แสวงหาผลประโยชน์ให้
ตนเองและพวกพ้อง
และคนสุดท้ายที่เป็นตำบลกระสุ
นตกจากเรื่องคุณสมบัติ คือ 10.
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ บริหารราชการแผ่นดินผิ
ดพลาดบกพร่อง ใช้งบประมาณของรัฐเพื่อเอื้
อประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้
อง ปกปิดข้อมูลความจริงซึ่
งควรบอกให้แจ้งในการยื่นหรื
อการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สิ
นและหนี้สิน ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้
ามในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เสนอให้มีการแต่งตั้งคู่
สมรสเป็นข้าราชการการเมือง
ก็เกริ่นเรื่องอภิปรายเที่ยวนี้
กันพอหอมปากหอมคอ ดูวันจริงว่าฝ่ายค้านจะเล่
นการเมืองเรียกความนิยมหรือพิทั
กษ์ผลประโยชน์ประเทศชาติจริงๆ.
.....................................
คอลัมน์ : ที่เห็นและเป็นอยู่
โดย "บุหงาตันหยง"