เมื่อวันที่ 2 พ.ค. พล.ต.ต. สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีการลักลอบนำยาเสพติดจำนวนมากซุกซ่อนไว้ในแฟลตพยาบาล รพ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.วัชรินทร์ บุญรักษ์ ผกก. สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ วางแผนจับกุม ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้แบ่งกำลัง2 ชุดโดยทำการเฝ้าดูพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยบริเวณใต้ถุนแฟลตพยาบาล อีกชุดเฝ้าระวังที่บ้านเลขที่ 53/17 หมู่บ้านเพชรอารีย์ 2 ถนนสุขสมบูรณ์ เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์พบ น.ส.ดวงกมล พิสูตรเสียง พยาบาลวิชาชีพ ห้องไอซียู อายุ 30 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีส้มขาวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ออกจากบ้านพักหลังดังกล่าว มุ่งหน้าไปแฟลตพยาบาลเมื่อไปถึงห้องพักชั้น 2 ได้หยิบถุงหิ้วขนาดใหญ่ 2 ถุง เดินกลับไปที่รถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่ที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้นพบว่าภายในมียาเสพติดจำนวนมาก
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงบุกขึ้นไปค้นห้องพักที่ห้อง205 โดยมีนายแพทย์ศุภชัย ศุภพฤกษ์สกุล ผอ.รพ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร ร่วมตรวจค้นพบยาเสพติดยาไอซ์ 1 กิโลกรัม ยาบ้า 21,500 เม็ดกัญชาอัดแท่งจำนวน 13 กิโลกรัม ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ที่วางกำลังเฝ้าบ้านพักในหมู่บ้านเพชรอารีย์ 2 ได้เข้าตรวจค้นพบนายเอกชัย แสงอาทิตย์อุทัย อายุ 37 ปี กำลังพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน ตรวจค้นภายในห้องนอน พบยาบ้าอีกจำนวน 6,000 เม็ด ยาไอซ์ 500 กรัม และรถยนต์กระบะ โตโยต้า รีโว่ 4 ประตู ทะเบียนป้ายแดง 6321 กรุงเทพมหานคร 1 คัน ทองรูปพรรณจำนวนมาก โทรศัพท์มือถือ5 เครื่อง สมุดฝากเงินหลายธนาคาร
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า ลักลอบจำหน่ายเสพติดโดยรับยาบ้ามาจากเครือข่ายทางภาคเหนือ เมื่อรับยาจากเอเย่นต์ได้นำไปซุกซ่อนไว้ที่แฟลตพยาบาล เนื่องจากเป็นสถานที่ราชการไม่เป็นที่สังเกตุของเจ้าหน้าที่ เมื่อลูกค้าสั่งซื้อน.ส.ดวงกมล จะเป็นผู้นำยาเสพติดมาให้แฟนหนุ่มสำหรับนายเอกชัยทราบว่าเมื่อปี 2550 เคยถูกจับกุมคดีจำหน่ายยาเสพติด ต่อมาในปี 2555ถูกจับกุมอีกครั้งศาล จ.ประจวบคีรีขันธ์ตัดสินจำคุก และพ้นโทษเมื่อปลายปี 2561 ส่วน นส.ดวงกมล เจ้าหน้าที่ตำรวจเคยเชิญตัวมาสอบปากคำเมื่อปี2558 เนื่องจากมีเบาะแสและพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่ไม่มีหลักฐานจึงต้องปล่อยตัว แต่ครั้งนี้จับได้พร้อมของกลางจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.