วันนี้ (19 เม.ย.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงประเด็นเงินกองทุนขององค์การค้าฯ และ ของ สกสค. ซึ่งตนมีคำถามเกิดขึ้นว่ากองทุนต่างๆที่มีอยู่ของหน่วยงานต่างๆอยู่ในกฎหมายกองทุนหมุนเวียนหรือไม่ โดยตนจึงมอบที่ประชุมให้ไปตรวจสอบดู และหากไม่อยู่ในกฎหมายดังกล่าวมาจากอะไร เพื่อที่เราจะได้มีระบบธรรมาภิบาลที่ดีไม่ว่าจะเป็นการมีระเบียบข้อบังคับของกองทุน ไม่ใช่ดำเนินการแบบใครอยากจะออกระเบียบแบบไหนก็ได้จนทำให้มีช่องทุจริตเกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาทุกคนก็ทราบดีว่าที่มาที่มาของเงินของกองทุนจากหน่วยงานดังกล่าวนำไปใช้กันมั่วไปหมด ดังนั้นตนจึงให้ที่ประชุมมีมติระบบการตรวจสอบบัญชีเกิดขึ้นแบบเร่งด่วน เพราะไม่เช่นนั้นหากไม่มีระบบการตรวจสอบที่ดีก็จะไม่รู้เลยว่าใครทำอะไรตรงไหนก็จะไม่มีหลักฐานเอาผู้กระทำความผิดได้
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้หารือถึงการพิมพ์แบบเรียนของปีการศึกษา 2561 ในกลุ่มสาระวิชาต่างๆ ขององค์การค้าฯ แต่ขณะนี้พิมพ์ไม่ทัน เพราะกำลังในการพิมพ์แบบเรียนขององค์การค้าฯไม่ถึง อีกทั้งก่อนหน้านี้โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ขอถอนตัวไปด้วย เพราะให้เหตุผลว่าราคาที่เสนอเข้าร่วมประมูลต่ำไป ซึ่งองค์การค้าฯได้รายงานว่า จำเป็นต้องกระจายงานการพิมพ์บางส่วนให้สำนักพิมพ์อื่นๆช่วยดำเนินการตามกฎกระทรวงกำหนดพัสดุที่รัฐต้องส่งเสริมหรือสนับสนุนและกำหนดวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ โดยวิธีคัดเลือกและวิธีเฉพาะเจาะจง พ.ศ.2560 ของกระทรวงการคลัง ข้อ 9 ระบุว่า กรณีหน่วยงานรัฐมีโรงพิมพ์ของตัวเองแต่มีงานพิมพ์จำนวนมากเกิดขีดความสามารถก็สามารถให้หน่วยงานรัฐจัดจ้างหน่วยงานนอกให้จัดพิมพ์ในส่วนที่เกินได้ ส่วนจะขึ้นแบลคสิสต์โรงพิมพ์จุฬาฯหรือไม่นั้นคงต้องดูเหตุผลก่อน เพราะเข้าใจว่าแม้จะทำให้องค์การค้าฯเสียหาย แต่โรงพิมพ์จุฬาฯก็แจ้งว่ามาเสนอราคาผิด ดังนั้นต้องขอดูที่เจตนาก่อน อย่างไรก็ตามการพิมพ์แบบเรียนจะล่าช้าออกไป 15 วันตามกำหนดเดิมที่ต้องทำให้เสร็จก่อนเปิดภาคเรียน แต่ยืนยันว่าสิ้นเดือน พ.ค.นี้ การพิมพ์แบบเรียนจะเสร็จสิ้นและเด็กทุกคนได้รับหนังสือเรียนแน่นอน