สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ว่า รายงานของศาลเม็กซิโกระบุว่า ชายหนุ่มจากเอล ซัลวาดอร์ ชื่อนายออสการ์ มาร์ติเนซ รามิเรซ วัย 25 ปี พยายามหลบหนีออกจากประเทศบ้านเกิดเอล ซัลวาดอร์ เพื่อเข้าไปตั้งต้นชีวิตใหม่ในประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมกับภรรยาวัย 21 ปีและลูกสาววัยเพียง 2 ปี ตัดสินใจเสี่ยงว่ายน้ำข้ามแม่น้ำรีโอแกรนด์ของเม็กซิโก เพื่อเข้าไปให้ถึงรัฐเท็กซัสของสหรัฐอเมริกา เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยชายหนุ่มผู้เป็นพ่อตัดสินใจให้ลูกสาวเกาะหลังแล้วเอาเสื้อยืดของเขาคลุมไว้ไม่ไห้หลุด แต่โชคร้ายที่ทั้งสองต้องเผชิญกับกระแสน้ำไหลเชี่ยว ก่อนที่จะจมลงไปต่อหน้าต่อตาของผู้เป็นเมีย ซึ่งรอดมาขึ้นฝั่งได้สำเร็จ
ศพของสองพ่อลูกจากเอล ซัลวาดอร์ เพิ่งมาพบอยู่ริมฝั่งแม่น้ำในเมืองมาตาโมรอส รัฐตาเมาลีปัสของเม็กซิโก ในสภาพนอนคว่ำหน้าทั้งสองคน สร้างกระแสโกรธแค้นในประเทศเอล ซัลวาดอร์ และเม็กซิโก ซึ่งรัฐบาลของทั้งสองประเทศถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องการปฏิบัติผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน แม้ประธานาธิบดีเม็กซิโกอังเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ กล่าวว่า รัฐบาลเม็กซิโกส่งทหาร 15,000 คนเข้าไปประจำการอยู่ตลอดแนวพรมแดนด้านที่ติดกับสหรัฐอเมริกา เพื่อหาทางหยุดยั้งไม่ให้ผู้อพยพหลบหนีข้ามเขตแดนเข้าไปในสหรัฐอเมริกา
เครดิตภาพAFP