จัดเต็ม"โจ ไบเดน"สาบานตน เข้ารับตำแหน่งปธน.สหรัฐ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตันประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ว่า พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46ของนายโจ ไบเดน วัย 78 ปีจากพรรคเดโมแครตผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ด้วยคะแนนเสียงคะแนนผู้เลือกตั้ง 306-232เอาชนะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน



แต่เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นมาในอาคารรัฐสภาสหรัฐในกรุงวอชิงตันขณะที่กำลังจะมีการพิจารณาของคณะผู้เลือกตั้งเพื่อรับรองให้นายโจ ไบเดน เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง เมื่อกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ได้บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาจนเกิดปะทะกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง มีผู้เสียชีวิต 5 ศพ ในจำนวนนี้เป็นตำรวจรัฐสภา 1 คน นำมาสู่การเสนอญัตติถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ออกจากตำแหน่งด้วยความผิดในข้อหาร้ายแรง ฐานยุยงส่งเสริมให้เกิดการจลาจลวุ่นวาย งานนี้จึงมีกำลังทหารจากกองกำลังพิทักษ์แห่งชาติ 25,000 คนมารักษาความสงบเรียบร้อยในกรุงวอชิงตัน



พิธีสาบานตนเริ่มขึ้นท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็นแต่มีแดดปรากฏให้เห็น ณ ปะรำพิธีด้านหน้าอาคารรัฐสภาฝั่งตะวันตก เริ่มด้วยการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งรองประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริกาของนางกมลา แฮร์ริส ต่อนางซอนญ่า สโตเมเยอร์ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ตามมาด้วยนายโจ ไบเดน พร้อมด้วยภรรยา กล่าวคำสาบานตนต่อนายจอห์น โรเบิร์ตส์ ประธานศาลฎีกา โดยมีรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ร่วมอยู่ในพิธีด้วย เพราะประธานาธิบดีทรัมป์ไม่มาร่วมพิธี



หลังจากนั้น ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 ได้กล่าวสุนทรพจน์ว่า เจตนารมย์ของคนได้รับการรับฟังแล้ว เจตนาของผู้คนได้รับการเอาใจใส่ เราได้เรียนรู้อีกครั้งว่าประชาธิปไตยเป็นสิ่งมีค่าและประชาธิปไตยเปราะบาง ในขณะนี้ประชาธิปไตยจะต้องธำรงไว้ นี่คือวันของอเมริกา วันของประชาธิปไตย วันของประวัติศาสตร์ ความหวัง เริ่มต้นใหม่และแก้ไข ซึ่งหมายถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ในสหรัฐอเมริกา นายไบเดนกล่าวอีกว่า เขารู้ว่ามีความเห็นแตกแยกในประเทศ แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ นี่คือช่วงเวลาแห่งวิกฤตและการท้าทาย แต่เราต้องร่วมมือกันเดินไปข้างหน้า เราต้องเจอกับช่วงเวลานี้ในฐานะประเทศสหรัฐอเมริกา และเขาจะเป็นประธานาธิบดีเพื่อชาวอเมริกันทุกคน



หลังพิธีประธานาธิบดีไบเดนได้ไปร่วมรับประทานอาหารกับสมาชิกสภาคองเกรสในอาคารรัฐสภาสหรัฐ หลังจากนั้นก็ ในช่วงบ่ายนายไบเดนเดินทางไปยังสุสานอาร์ลิงตันนอกกรุงวอชิงตันเพื่อวางพวงมาลา ณ สุสานทหารนิรนาม มีอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา, จอร์จ ดับเบิลยู. บุช และบิล คลินตัน ร่วมพิธีด้วย จากสุสานอาร์ลิงตัน นายไบเดนเดินทางด้วยขบวนรถยนต์มายังทำเนียบขาวและคาดว่าจะมีการเดินเท้าในช่วงสุดท้าย เพื่อเข้าสู่บ้านหลังใหม่ในทำเนียบขาว ซึ่งจะมีกำลังทหารคอยรักษาความปลอดภัย







เครดิตภาพAP