นายโสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิ สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) เปิดเผยว่า ฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคที่ซื้อประกันโควิดและเกิดปัญหาในการยื่นเอกสารเพื่อใช้เคลมประกันเมื่อตรวจพบโควิด โดยปัญหาที่พบ คือ บริษัทประกันส่วนใหญ่ต้องการให้ผู้เอาประกันนำส่งเอกสารใบรายงานหรือใบรับรองแพทย์ก่อนจึงจะสามารถเคลมประกันให้ได้ ทั้งที่ผู้เอาประกันมีรายงานผลตรวจเชื้อโควิดจากห้องปฏิบัติการแบบ PCR หรือ การตรวจหาเชื้อไวรัสโดยดูจากสารพันธุกรรม RNA ของไวรัส ซึ่งเป็นวิธีการตามมาตรฐานสากล

ประกอบกับสถานการณ์โควิดที่มีการแพร่ระบาดมากจนทำให้การพบแพทย์และการเข้าถึงการรักษาในโรงพยาบาลเป็นไปได้ยาก ดังนั้น การที่ผู้เอาประกันจะต้องมีใบรายงานหรือใบรับรองแพทย์เพื่อให้เอกสารครบถ้วนตามข้อกำหนดของบริษัทประกันเพื่อยื่นเคลมประกันจึงไม่ใช่เรื่องที่จะดำเนินการได้โดยง่าย

จากข้อมูลกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้นิยามคำว่า “ผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อโควิด” ไว้ในแนวทางเฝ้าระวังและสอบสวนโรคติดเชื้อโควิด 2019 ฉบับวันที่ 23 มี.ค.2563 ว่า เป็นผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคที่มีผลตรวจทางห้องปฏิบัติการพบสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส SARS – CoV – 2 โดยวิธี PCR ยืนยันจากห้องปฏิบัติการตามที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ประกาศ 1 แห่ง หรือ Sequencing หรือเพาะเชื้อ

รวมถึงประกาศแนวทางการแยกกักผู้ป่วยโควิดในชุมชน (Community Isolation) ฉบับวันที่ 24 ก.ค.2564 จากกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ใช้แนวทางเดียวกันด้วยนั้น จึงเห็นได้ว่าการเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดควรสามารถใช้ผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการโดยวิธี PCR ยืนยันว่าเป็นผู้ป่วยโควิดตามนิยามของกรมควบคุมโรคและกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้โดยไม่จำเป็นต้องมีใบรายงานหรือใบรับรองจากแพทย์อีกแต่อย่างใด

ทั้งนี้ สอบ. จึงขอให้บริษัทประกันที่รับประกันภัยโควิดลดขั้นตอนในการยื่นเอกสารเพื่อเคลมประกันของผู้เอาประกันที่ติดเชื้อโควิด โดยสามารถให้ใช้ผลตรวจจากห้องปฏิบัติการโดยวิธี PCR ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ใบรับรองแพทย์และเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางนิยามผู้ป่วยโควิดของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมทั้งจะเร่งติดตามการดำเนินการของบริษัทประกัน และหารือกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นการคุ้มครองและรักษาสิทธิผู้บริโภคต่อไป