กรณีกระแสข่าวเหตุการณ์คลิปเสียงที่ถูกระบุว่าคล้ายกับพระหนุ่มนักเทศน์ชื่อดังใน จ.นครศรีธรรมราช พัวพันกับสีการายหนึ่ง จนเป็นข่าวที่ถูกให้ความสนใจอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีภาพข้อความที่ระบุว่า เป็นการพูดคุยระหว่างสีกากับพระ ทำให้หลายฝ่ายพุ่งเป้าไปที่ พระพงศกร จันทร์แก้ว หรือ พระกาโตะ พระนักเทศน์ชื่อดังภาคใต้ ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะออกมาระบุว่าเป็นการแต่งเรื่องขึ้น
เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เปิดเผยว่า กรณีแบบนี้ไม่น่าเกิดซ้ำซาก รุ่นพี่ๆ เขาทำกันมาแล้ว น้องเอ๋ยทำไมไม่รู้จักระมัดระวังตัวปล่อยให้เรื่องฉาวโฉ่ขึ้นมาอีก เรื่องแบบนี้เรายังระบุว่าใครชั่วใครเลว ใครผิดใครถูกไม่ได้ ประเด็นคือเรื่องสลิปเบิกเงินไปให้ใครใช้ยังไง เอาไปใช้แจกผู้หญิง สีกาต้องรับกรรม ถ้าไม่ได้เอาไปต้องชี้แจงให้ชัดเจนให้คณะกรรมการสอบสวนของอำเภอ ตำบล จังหวัด ให้ชัดไปว่าพระองค์นี้น่าจะรักษาไว้เพื่อเป็นประโยชน์ เป็นกำลังของพระศาสนาหรือควรจะเคลียร์ออกไป เหมือนปลาเน่าตัวหนึ่งก็จะเหม็นทั้งหมด
พระพยอม กล่าวว่า ส่วนผู้หญิงถ้ามีสติคงจะไม่ทำเลวๆ ชั่วๆ แบบนี้ อ้างว่าป่วย อย่างนี้เรียกว่าป่วยหาเรื่องหาเวรกรรม ป่วยหานรกชัดๆ ทำให้ศรัทธาประชาชนสั่นคลอน ทำให้พระต้องมาเสียเวลาชี้แจง ทำให้เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัด เสียสมองต้องมาไตร่ตรองเรื่องนี้ แทนที่จะไปทำเรื่องพระศาสนาให้มั่นคงเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ เรียกว่าอุบาทว์ลงสำหรับผู้หญิงคนนี้ ถ้าตนเป็นญาติรู้ว่าผู้หญิงเป็นแบบนี้ ถ้าตบได้คงต้องตบสักฉาด ทำไมถึงกุเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ถ้ากุเรื่องผู้ชายคนอื่นยังไม่เสียหายเท่ากุเรื่องพระ ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงไม่ควรจะคบคนแบบนี้เป็นคนพาลสันดานต่ำ ไม่กลัวเรื่องชั่ว กลัวเรื่องบาป อ้างว่าเป็นคนป่วยจิตเวชแล้วจะได้พ้นโทษ
พระพยอม กล่าวว่า ขอให้ทนายก็ดีตำรวจ หรือคณะกรรมการสอบสวน ถ้าพระไม่ผิดแล้วผู้หญิงคนที่มากุเรื่องคนนี้ควรจะได้รับโทษด้วย อย่าทำกฎหมายดีกับคนชั่วเกินไป เดี๋ยวคนชั่วก็ย่ามใจ เดี๋ยวกลับมาแบล็กเมล์พระอ้างนู่นอ้างนี่ตบทรัพย์ ดูว่าหลวงพี่ทองย้อยได้หลักฐานมาจากไหน ขอบอกหลวงพี่ทองย้อยนิดหนึ่ง จะทำเรื่องนี้อย่าร้องไห้ มันเสียภาพลักษณ์ของความเป็นพระ
“หลวงปู่มั่นเคยเตือนว่า การแชร์เรื่องจริง ใครผิดใครเลวมันออกมาไม่เป็นมรรคผลนิพพาน มันมักจะออกมาเป็นศัตรู มักจะออกมาเพื่อจะทิ่มตัวเอง เพราะฉะนั้นถ้าจะทำต้องหาข้อมูลหลักฐาน ไม่ใช่โยมส่งคลิปให้แล้วมาเปิดเผย ดูว่าของจริงแค่ไหน ไม่ใช่ได้ปุ๊บมาแฉปั๊บ โบราณเรียกว่าฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับไปกระเดียด อย่างนี้ก็เข้าตัวไม่ได้ออกมาเป็นมรรคผลนิพพานเลย ออกมาเป็นนรก เป็นความเสียใจร้อนใจ การทำจะทำเพื่อปกป้องพระศาสนา ท่านต้องแม่นในข้อมูล อย่าทำคนเดียว หาแนวร่วม ตอนสมัยตอนทำเรื่องพระยันตระ เราต้องมีอาจารย์เก่งๆ ดีๆ สมัยนั้นอาจารย์สมเกียรติ อ่อนวิมล อาจารย์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และหัวเรือใหญ่คือ ศาสตราจารย์ เสถียรพงษ์ วรรณปก ท่านเหล่านี้จะเป็นผู้เชี่ยวชาญแตกฉาน คงต้องปรึกษา หรือหมอปลาก็ได้ อย่าไปลุยเดี่ยว ถ้าลุยเดี่ยวบารมีไม่ถึง เขาเรียกชั่วโมงบินไม่ถึงพรรษา ไม่ถึงจะลำบาก ถึงเราไปแคร์เรื่องจริงหลักฐาน เราไม่แน่น พลังไม่มี กลายเป็นเราต้องถูกขับออกจากวัด ต้องมานั่งเสียใจ ให้เป็นบทเรียนพระรุ่นน้องๆ ทำอะไรอย่าการ์ดตก อย่าประมาทรักษาพรหมจรรย์ให้ดี พระเทศน์เก่ง ยังไม่สำคัญเท่ารักษาพรหมจรรย์ได้ดี รักษาความบริสุทธิ์ให้ดี” พระพยอม กล่าว
พระพยอม กล่าวต่ออีกว่า เรื่องนี้มันต้องได้ข้อเท็จจริง หลักฐานมัดแน่นได้ เบิกจริงโอนเงินให้จริง มีการเสพสมกันอย่างไร หาหลักฐานและตั้งกรรมการสอบทุกคนปฏิเสธกันทั้งนั้น พระที่ทำแบบนี้ ร้อยทั้งร้อย ปฏิเสธกันทั้งนั้น ค้นหาหลักฐานมัดได้จึงยอมสึกออกไป เสียเงินแสนแขนยังไม่ได้จับ เชื่อได้หรือเปล่า ถ้าเป็นเรื่องจริง คนที่เสียเงินแสนก็โง่เกินไป ส่วนความผิดทางด้านสงฆ์ แค่ลูบคลำจับต้องกาย เกี้ยวพาราสีเขาเรียกว่า อาบัติสังฆาทิเสส ถึงแม้ถูกจับสึก ก็จะบวชได้อีก แต่ถ้าล่วงละเมิดทางเพศไปแล้ว โอกาสกลับมาบวชปิดประตู เป็นเหมือนตาลยอดด้วนที่จะแทงออกดอกยอดผลไม่ได้ ไม่มีโอกาสได้บวชเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนานี้ได้
