เมื่อวันที่ 30 เม.ย. นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกระแสในโซเชียลมีเดียที่ร้านค้าจำนวนไม่น้อยงดรับการจ่ายเงินผ่านโครงการคนละครึ่ง ตลอดจนระบบการจ่ายเงินผ่าน e-wallet หรือกระเป๋าตังค์ของรัฐ เหตุเพราะโดนเรียกเก็บภาษีรายได้บุคคลธรรมดาย้อนหลังจำนวนมากว่า กรณีนี้สะท้อนให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ไม่เข้าใจปัญหาความขัดสนของประชาชนอย่างแท้จริง ภายใต้บรรยากาศเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ค่าครองชีพพุ่งสูง ประชาชนจำนวนมากรายได้ตกต่ำ ตกงานและยังว่างงานระยะยาวอยู่จำนวนไม่น้อย พล.อ.ประยุทธ์ ควรคิดผ่อนคลายมาตรการทางภาษี เพื่อส่งเสริมการทำธุรกิจ สร้างอาชีพ ไม่ใช่คิดรีดเลือดกับปู หวังกอบโกยรายได้ภาษีน้อยนิดจากพ่อค้าแม่ค้าที่หมดทางทำมาหากิน ต้องพึ่งพาการกระตุ้นกำลังซื้อผ่านมาตรการคนละครึ่งของรัฐ เสมือนรัฐบาลที่ถังแตกอับจนหนทาง คิดสร้างเศรษฐกิจใหม่ไม่เป็น จนต้องขูดรีดจากประชาชนที่แร้นแค้น

การที่รัฐบาลมีความพยายามนำผู้ประกอบธุรกิจในระดับต่างๆ เข้าสู่ระบบ เพื่อให้เสียภาษีรายได้อย่างถูกต้อง เป็นเรื่องที่ควรทำ แต่ต้องเลือกเวลาที่เหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจและภาวะสังคมในขณะนี้ด้วย รวมทั้งให้ความรู้ประชาชนควบคู่กันไป ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนในระบบจำนวนไม่น้อยที่ต้องเสียภาษีบนฐานคิดรายได้ของบุคคลธรรมดา แตกต่างจากการคิดแบบนิติบุคคลที่เสียภาษีจากฐานกำไร ทำให้เกิดการเรียกจ่ายภาษีที่สูงเกินกว่าผู้ประกอบการจะรับไหว อีกทั้งแม่ค้าบางรายที่ไม่เคยเสียภาษีมาก่อน ก็ไม่เคยมีความรู้เรื่องภาษี จึงไม่ได้มีการปรับราคารองรับภาระภาษีที่ต้องจ่ายภายหลัง จึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ เร่งเข้ามาทำความเข้าใจสถานการณ์ และหาทางบรรเทาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น งดเว้นการเก็บภาษีรายได้จากธุรกรรมผ่านมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อไปก่อน หรือผ่อนคลายภาษีให้ผู้เข้าระบบใหม่ในช่วงแรกเพื่อให้เข้าใจโครงสร้างการเสียภาษีเพิ่มขึ้น เป็นต้น เพื่อประคองสถานการณ์ให้ผู้ซื้อและผู้ขายยังพอได้ประโยชน์จากโครงการของรัฐผ่านมาตรการเหล่านั้นบ้าง เพราะหากผู้ประกอบการยุติการจ่ายผ่านมาตรการของรัฐทั้งหมด เงินเยียวยากระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐเติมเข้ามือถือประชาชนก็จะเท่ากับกระดาษเปล่าไร้ราคา

“สถานการณ์เศรษฐกิจไทย เข้าขั้นวิกฤติหนัก สิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ ประชาชนมีเงินไม่พอใช้ ประสบปัญหาค่าครองชีพสูง สินค้าแพงทุกหย่อมหญ้า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เร่งแก้ไขปัญหาความสบายใจต่อการใช้จ่ายผ่านโครงการของรัฐ โครงการคนละครึ่งที่เป็นนโยบายที่เคยกู้หน้าได้โครงการเดียว คงพังไม่เป็นท่าในเฟสหน้า” นายชนินทร์ กล่าว