เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์ PCT หรือ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า หลายวันก่อนได้รับรายงานจากฝ่ายรับแจ้งความออนไลน์ ว่ามีผู้เสียหายถูกแก็งคอลเซ็นเตอร์ “หลอกว่าส่งของผิดกฎหมาย อ้างเป็นตำรวจ สภ.เชียงราย ให้ผู้เสียหายกดลิงก์แอพที่สามารถควบคุมเครื่องระยะไกล เพื่อแจ้งความออนไลน์ ผู้เสียหายได้โหลดลิงก์ และบอกรหัส 9 ตัวให้กับคนร้าย ซึ่งเชื่อว่าเป็นรหัสควบคุมเครื่อง จากนั้นคนร้ายให้คว่ำหน้าจอโทรศัพท์ไว้เป็นเวลา 15 นาที เมื่อเปิดขึ้นมาปรากฏว่าเงินหายไปจากบัญชีธนาคารรวม 4 บัญชีเป็นเงินทั้งสิ้น 2 ล้านกว่าบาท

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ก่อนอื่นขอบอกว่าแอพที่คนร้ายนำมาใช้นั้น เป็นแอพที่มีประโยชน์ ช่วยให้เราเข้าไปควบคุมคอมพิวเตอร์อีกเครื่องได้ เสมือนเราไปนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น แต่ถ้ามิจฉาชีพนำไปใช้ในทางที่ผิดมันก็อาจก่อความเสียหายกับเราได้อย่างมหันต์ สมมติว่าถ้ามิจฉาชีพโทรมาด้วยมุกอะไรก็ตาม แล้วส่งลิงก์แอพประเภทนี้ ซึ่งมีอยู่มากมายใน Play Store หรือ App Store แล้วเราติดตั้งลงไป

ประการแรก แอพจะสามารถควบคุมมือถือระยะไกล โดยปกติมันจะมีขั้นตอนของมันเล็กน้อย คนร้ายอาจจะบอกให้เรากรอก ตัวเลข หรือตัวอักษรสักชุด หรือไม่ คนร้ายก็หลอกถามเอาตัวเลขชุดนั้นจากเรา ทันใดนั้น คนร้ายจะควบคุมเครื่องของเราได้ทันที บังคับคลิกได้ทุกปุ่ม ทุกแอพ แล้วอะไรจะเกิดขึ้น

ประการที่สอง แอพประเภทแชร์หน้าจอ วิธีการใช้มันก็เหมือนแอพควบคุมมือถือนั่นแหละ แต่อันนี้ คนร้ายก็จะดูหน้าจอเราได้ สมมุติมันหลอกให้เราเปิดแอพสักแอพ คนร้ายก็จะเห็นข้อมูลเราทั้งหมด เมื่อได้ข้อมูลแล้ว ก็อาจมีแผนสองหลอกเราต่ออีกครั้งในขั้นตอนต่อไปก็ได้

สำหรับกรณีดังกล่าวข้างต้น คนร้ายหลอกให้โหลดแอพ จากนั้นหลอกให้บอกรหัส 9 ตัว คว่ำหน้าโทรศัพท์ 15 นาที อ้างรอตรวจสอบข้อมูล ซึ่งเราเชื่อว่าน่าจะเป็นช่วงดูดข้อมูล เมื่อเปิดหน้าจอมาเงินหายหมด เชื่อว่าคนร้ายขอเปลี่ยนรหัสเข้าบัญชีเอง เพราะมีเลข OTP ส่งจากธนาคารมาที่โทรศัพท์ผู้เสียหาย แต่คนร้ายสามารถเห็นได้ที่หน้าจอคนร้ายเอง แล้วทำรายการโอนเงินที่เครื่องคนร้ายทุกบัญชีที่มีอยู่ในโทรศัพท์

“การที่คนอื่นควบคุมโทรศัพท์เราได้ ก็ไม่ต่างอะไรกับที่เรายื่นโทรศัพท์ให้เขา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเงินในบัญชีเราจะหายได้ทันทีทันใด เพราะคนร้ายก็ยังไม่รู้รหัสการทำธุรกรรมกับ e-banking ของเราอยู่ดี ถ้ามีสติ ไม่บอกรหัส ก็ยากที่คนร้ายจะโอนเงินผ่านช่องทางดังกล่าว จึงอยากฝากเตือนประชาชนว่าสำนักตำรวจแห่งชาติไม่มีนโยบายให้ตำรวจหน่วยงานต่างๆ ติดต่อผู้เสียหายทางไลน์ หรือให้โหลดแอพ หรือให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบ เพราะฉะนั้นอย่าหลงเชื่อบอกข้อมูลส่วนตัวให้ใครง่ายๆ โดยเฉพาะรหัส OTP หรือรหัสควบคุมเครื่อง” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ประชาชนถ้าเกิดความสงสัย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 08-1866-3000 หรือ 191 ทั่วประเทศ ผู้เสียหายสามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.com