เมื่อวันที่ 28 ก.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ภายหลังที่มีการประชุมหารือเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ว่า ไม่ได้เกิดปัญหาความขัดแย้งอะไรระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานคร เพียงแต่เกิดการตีความที่ไม่ตรงกัน ซึ่งทางกรมควบคุมโรค โดย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่ามีการจัดส่งวัคซีนโควิด-19 ทั้งหมดไปที่ กทม.ตามข้อมูลที่ได้ประสานมา จากนั้นทางพื้นที่ จะต้องไปจัดสรรจำนวนที่ต้องส่งมอบตามหน่วยงาน และตามพื้นที่ต่างๆ และต้องจัดสรร ไว้สำหรับคนที่ลงทะเบียนผ่าน “หมอพร้อม” ไปจนถึงการฉีดในโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่ในพื้นที่ กทม. ด้วยเรื่องมีอยู่เท่านี้

“การกระจายวัคซีนจะมีศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เป็นผู้พิจารณาและรับทราบข้อมูลทั้งหมด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในที่ประชุมเมื่อวันที่ 27 ก.ค.นั้น ไม่คิดว่าเป็นปัญหาระหว่างกัน พอเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วก็คุยเข้าใจกันดี เชื่อว่าทุกคนแบกความเครียดเหมือนกันหมด ก็ขอให้เดินหน้าทำงานกันต่อ ปัญหาเมื่อวันที่ 27ก.ค.เป็นเรื่องของการทำงาน ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดต่างก็มีความต้องการวัคซีนให้ได้มากที่สุด ซึ่งทาง ศบค.ก็เป็นผู้จัดสรรแผนการกระจายวัคซีนออกไป โดยมีกรมควบคุมโรคเป็นผู้รับมาปฏิบัติ ส่งวัคซีนออกไปตามที่ ศบค.กำหนด” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ฉีดวัคซีนมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ทำไมยังเกิดปัญหาความเข้าใจที่ไม่ตรงกันอยู่ นายอนุทิน กล่าวว่า การจัดสรรวัคซีนเป็นไปตามความจำเป็นของพื้นที่ สัดส่วนประชากร อย่างเช่นที่ กระทรวงสาธารณสุข กำหนดว่า เดือน มิ.ย.-ก.ค. ต้องฉีดให้ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง เพื่อลดอัตราการติดเชื้อแล้วมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งนโยบายก็จะปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น การสู้กับโรคต้องปรับตามสถานการณ์อยู่ตลอด

เมื่อถามถึง ภาพความแออัดที่ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ เมื่อวันที่ 27 ก.ค.นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ช่วงเวลานั้น ให้บริการกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเป็นหลัก เพราะเราต้องเร่งฉีดกลุ่มดังกล่าวให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ จึงเปิดให้บริการแบบวอล์กอิน เข้ามาโดยจะเปิดให้บริการถึง 31 ก.ค.นี้ ซึ่งประชาชนมารับบริการเป็นจำนวนมาก แต่ในเดือน ส.ค.จะเป็นการฉีดให้ประชาชนทั่วไป ผ่านการลงทะเบียนเพื่อจองวันรับวัคซีนตามปกติ ความแออัดก็จะลดน้อยลง แต่สำหรับผู้สูงอายุมากกว่า 75 ปีก็ยังสามารถเข้ามารับวัคซีนได้เลย เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนมากที่สุด ขอย้ำว่าศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เป็นหน่วยสนับสนุน เพื่อเก็บตกผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนจากกลุ่มต่างๆ บุคลากรสาธารณสุขที่เข้าไปช่วยเหลือ ต่างทำงานกันอย่างเต็มที่ ตรงนี้ตนขอเป็นกำลังใจให้คนทำงาน.