จากกรณีกระแสข่าวเหตุการณ์คลิปเสียงที่ถูกระบุว่าคล้ายกับพระหนุ่มนักเทศน์ชื่อดังใน จ.นครศรีธรรมราช พัวพันกับสีการายหนึ่งชื่อ “ตอง” จนเป็นข่าวที่ถูกให้ความสนใจอย่างมาก จนอดีตพระพงศกร จันทร์แก้ว หรือ “อดีตหลวงพี่กาโตะ” พระนักเทศน์ชื่อดังวัดเพ็ญญาติ ต.กะเปียด อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ได้ลาสิกขา ตามที่ได้นำเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

ด่วน! ‘พระกาโตะ’ โพสต์คลิปกราบลาสิกขา ลบอุปสรรคด้วยการสึก

ล่าสุด หมอปลา-นายจีรพันธ์ เพชรขาว มือปราบสัมภเวสี พร้อมทีมงานและสื่อมวลชนเดินทางมายังวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อขอความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวกับ “พระราชธรรมนิเทศ” หรือ “พระพยอม กัลยาโณ” เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว โดย พระพยอม กล่าวว่า กรณีของ “กาโตะ” นั้น หากเป็นเรื่องจริงก็เปรียบเสมือน “ตาลยอดด้วน” คือไม่มีโอกาสแทงยอดออกใบได้อีก หมดโอกาสเจริญงอกงามในธรรมวินัยได้ หรือเรียกง่ายๆว่าไม่สามารถกลับมาบวชได้แล้ว และจำเป็นต้องมีการสอบเส้นทางการเงิน และมีโอกาสที่จะปาราชิกได้ จึงอยากฝากถึง “กาโตะ” ไว้ว่า ทำกรรมใดไว้ ก็ต้องรับกรรมที่กระทำไว้

ทั้งนี้ ในกรณีที่พระผู้ใหญ่ใน จ.นครศรีธรรมราช อ้างว่าเป็นตัวกลางให้ใบตองกับกาโตะจบเรื่องนี้ต่อกัน โดยให้บอกสื่อฯว่าไม่ใช่เรื่องจริงและบอกว่าป่วยไบโพลาร์นั้น ทางด้านพระพยอม บอกว่า การกระทำของพระผู้ใหญ่ในลักษณะนี้เป็นการแนะแนวทางที่ผิดธรรมวินัย เป็นพระผู้ใหญ่ไม่ได้ ควรมีหลักธรรมสัจจะ ไม่ควรโกหก และในธรรมวินัยนั้น พระพุทธเจ้าไม่เคยสอน ถือว่าเป็น พวกเนื้องอกของศาสนา

นอกจากนี้ พระพยอม ยังได้พูดคุยกับหมอปลา ถึงภารกิจเกี่ยวกับเปิดโปงวงการสงฆ์ที่กำลังทำอยู่ว่าในปัจจุบัน การแฉเรื่องจริงเป็นเรื่องที่ยากลำบาก เพราะหลักฐานต้องแน่น ไม่อย่างนั้นจะเด้งเข้าตัว และที่สำคัญคือทำการในลักษณะนี้อย่าให้มีลักษณะก้าวร้าว ควรอ่อนน้อมถ่อมตน เพราะเราทำด้วยใจบริสุทธิ์ ให้คนที่เห็นต่างมองว่าเป็นการปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา ซึ่งน้อยคนที่จะคิดทำ เพราะคนกลัว แล้วความกลัวนี้จะทำให้เสื่อม

ทั้งนี้ ทีมข่าวได้สอบถามพระพยอมว่าเมื่อมีเรื่องราวอื้อฉาวของวงการสงฆ์ออกมาตลอด จะทำให้คนหมดศรัทธาในพุทธศาสนาหรือเปล่า “พระพยอม” บอกว่า ตราบใดที่ทุกข์ยังมี ศาสนาก็ยังอยู่ เหมือนกับ ไวรัสกับวัคซีนที่ยังต้องมีอยู่ ที่เป็นของคู่กัน และต่อให้คนไม่เลื่อมใสในพระสงฆ์ แต่คำสอนของศาสนาคำสอนเป็นอมตะ

ในขณะเดียวกัน “หมอปลา” ยังถามถึงการเปิดสำนักดูดวงของเหล่าพระสงฆ์ในปัจจุบันด้วย โดย “พระพยอม” บอกว่า การดูดวงมันดูได้ แต่อย่าอวดอ้าง หลอกลวง เพราะพระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า หากพระสงฆ์ยังนั่งฉันข้าวญาติโยมอยู่ ก็ไม่ควรทำอะไรแบบนี้เพราะมันเปลืองข้าวสุกของชาวบ้าน ดังนั้น “พึ่งตนก่อน ที่จะพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์”