สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ว่า กระทรวงเกษตรของยูเครนออกแถลงการณ์ เมื่อวันจันทร์ เรื่องการปิดท่าเรือ 4 แห่ง แบ่งเป็น 3 แห่งริมทะเลอาซอฟ ได้แก่ ท่าเรือในเมืองมาริอูโปล เมืองแบร์เดียนสก์ เมืองสกาดอฟสก์ และท่าเรือเคียร์ซอน ริมชายฝั่งทะเลดำ “อย่างไม่มีกำหนด” หรือจนกว่า “จะสามารถฟื้นฟูความสงบ” เนื่องจากการยึดครองที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน และระบบโลจิสติกส์ในภูมิภาค

ขบวนรถของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ นำประชาชนเดินทางออกจากเมืองมาริอูโปล มุ่งหน้าไปยังเมืองซาโปริชเชีย ที่อยู่ทางตะวันออก


ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการส่งออกธัญพืชหลายสิบล้านตัน เนื่องจากรัสเซียปิดกั้นเส้นทางทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อห่วงโซ่อุปทานในเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา

ด้านเทศบาลเมืองมาริอูโปลรายงานว่า กองทัพรัสเซียยกระดับปฏิบัติการโจมตีโรงงานถลุงเหล็กอาซอฟสทาล ทันทีที่รถบัสโดยสารคันสุดท้ายของผู้อพยพเดินทางออกจากพื้นที่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) และคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ ( ไอซีอาร์ซี ) ลงพื้นที่อพยพประชาชนในเมืองแห่งนี้ โดยเฉพาะที่โรงงานถลุงเหล็กอาซอฟสทาล ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา


แม้ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ ว่ายูเอ็นและไอซีอาร์ซีสามารถอพยพประชาชนออกไปได้มากน้อยเพียงใด แต่รัฐบาลยูเครนเคยให้ข้อมูลว่า มีพลเรือนมากกว่า 100,000 คนในเมืองแห่งนี้ ที่รอการอพยพ.

เครดิตภาพ : REUTERS