วิคกี ไวท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการแผนกราชทัณฑ์วัย 56 ปี หายตัวไปอย่างลึกลับ หลังจากที่เธอออกจากเรือนจำลอเดอร์เดล เคาน์ตี เมืองฟลอเรนซ์ รัฐแอละแบมา สหรัฐอเมริกา เมื่อเวลา 09.41 น. ของวันศุกร์ที่ 29 เม.ย. พร้อมด้วย เคซีย์ ไวท์ วัย 38 ปี ซึ่งเป็นนักโทษคดีฆาตกรรมอุกฉกรรจ์

ริค ซิงเกิลตัน นายอำเภอลอเดอร์เดล เคาน์ตี ระบุว่า เจ้าหน้าที่ไวท์แจ้งแก่เจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ว่าเธอกำลังจะนำตัวนักโทษไวท์ (ทั้งสองมีนามสกุลเหมือนกัน แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน) ไปเพื่อรับการประเมินทางสุขภาพจิตที่ศาล แต่หลังจากการตรวจสอบ ไม่พบว่ามีการนัดหมายดังที่เธอกล่าวอ้าง

ซิงเกิลตัน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไวท์ไปส่งตัวนักโทษไวท์ที่ศาลแล้วบอกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวว่า เธอมีนัดส่วนตัวที่จะต้องไปพบแพทย์ของเธอ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่พยายามติดต่อเธอในช่วงบ่ายเนื่องจากเธอไม่ได้ไปตามนัด ก็พบว่ามีเพียงเสียงตอบรับจากบริการวอยซ์เมลจากโทรศัพท์มือถือของเธอ หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่เรือนจำก็แจ้งว่า เคซีย์ ไวท์ ยังไม่ได้กลับสู่ห้องขัง และเร่งรีบออกตามหาตัวคนทั้งสองในทันที

เคซีย์ ไวท์ โดนจับกุมและตั้งข้อหาฆาตกรรมที่รุนแรงและโหดเหี้ยม โดยเจตนาและมีการไต่รตรองไว้ก่อนในเดือน ก.ย. 2563 เขาแทง คอนนี ริดจ์เวย์ วัย 58 ปีอย่างโหดร้ายจนเสียชีวิต ขณะนั้น ไวท์ เคยติดคุกมาแล้วเมื่อปี 2558 ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุกเคหสถาน ขโมยรถและหลบหนีการจับกุมของตำรวจ นอกจากนี้ เขายังเคยเขียนคำสารภาพในคดีฆาตกรรมโดยให้รายละเอียดที่ไม่ปรากฏในสื่อได้อย่างถูกต้อง ก่อนหน้าที่จะหายตัวไป เขากำลังรอรับการพิจารณาคดีอยู่ที่เรือนจำลอเดอร์เดล เคาน์ตี

ซิงเกิลตัน แถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ทีมเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนเหตุการณ์อย่างเข้มข้นและพยายามหาคำตอบให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนทั้งสองที่หายตัวไป ทีมตำรวจได้เข้าตรวจสอบบริเวณลานจอดรถที่ศูนย์การค้าในท้องที่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พบรถตรวจการณ์ของ วิคกี ไวท์ จอดทิ้งไว้ในเช้าวันศุกร์ รวมถึงตรวจสอบบันทึกการเข้าเยี่ยมนักโทษและการใช้โทรศัพท์ของ เคซีย์ ไวท์ เพื่อหาเงื่อนงำเพิ่มเติม โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมสืบสวนกลางหรือเอฟบีไอเข้ารร่วมด้วย

ทีมเจ้าหน้าที่ยังพยายามค้นหาว่าคนทั้งสองเคยรู้จักกันหรือมีความสัมพันธ์มาก่อนหน้านี้หรือไม่ แม้ว่า ซิงเกิลตัน จะระบุว่า วิคกี ไวท์ เป็นเจ้าหน้าที่ชั้นเยี่ยม ซึ่งเคยได้รับตำแหน่งพนักงานดีเด่นในหลายโอกาส และเธอเพิ่งจะยื่นจดหมายขอเกษรียณอายุการทำงานในวันก่อนหน้าที่เธอจะหายตัวไป

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงสืบสวนคดีในรูปของการลักพาตัวเจ้าหน้าที่จนกว่าจะพบหลักฐานชี้นำไปในทิศทางอื่นว่าเธอเป็นผู้ช่วยเหลือให้นักโทษหลบหนี โดยมีความกังวลว่า เจ้าหน้าที่ ไวท์ อาจกำลังตกอยู่ในอันตราย เนื่องจากนักโทษ ไวท์ เป็นผู้ก่อคดีฆาตกรรมอย่างรุนแรงซึ่งมีสิทธิ์โดนตัดสินโทษประหารชีวิต จึงถือว่าเป็นบุคคลอันตรายต่อประชาชนด้วย

แหล่งข่าวและเครดิตภาพ : Dailybeast.com