เมื่อวันที่ 28 ก.ค. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า จะเปิดการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 18-20 ส.ค.นี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อไหร่ ว่า เป้าหมายเดิมยื่นภายในเดือน ส.ค. นี้ ตอนนี้ได้รวบรวมข้อมูลไว้ส่วนหนึ่งแล้ว และได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากที่ประชาชนส่งมาให้เพิ่มเติม ยืนยันว่าการปภิปรายครั้งนี้เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ยอมรับว่า เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อาจจะทำให้การดำเนินการในเรื่องนี้สะดุดอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ต้องยื่นภายในสมัยประชุมสภาฯ นี้ โดยเบื้องต้นวางกรอบแนวทางไว้ว่า จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในรายบุคคล แน่นอนว่าต้องมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นจำเลยที่ 1 ส่วนรัฐมนตรีรายอื่นๆ นั้น ต้องรอสรุปจากพรรคร่วมฝ่ายค้านก่อน ซึ่งเราได้มีการนัดการประชุมในสัปดาห์หน้า แต่จำนวนรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายอาจจะไม่เยอะมากนัก ประมาณ 5 คน ซึ่งยังไม่สรุปว่าเป็นใครบ้าง

นายประเสริฐ กล่าวว่า ประเด็นในการอภิปรายในครั้งนี้จะพุ่งเป้าเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาดล้มเหลว ที่สำคัญการบริหารราชการแผ่นดินบางอย่างส่อไปในทางทุจริต ด้วยเหตุผลทั้งหลายทั้งปวงเรามีข้อมูลที่เพียงพอ เนื่องจากการอภิปรายครั้งนี้จะเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายของอายุรัฐบาลนี้ ฉะนั้นเนื้อหาที่เราอภิปรายเมื่อเปรียบเทียบกับการอภิปรายครั้งที่แล้วข้อมูลมันนิ่ง เพราะเราได้อภิปรายในเรื่องถุงมือยาง และการทุจริตในเรื่องอื่นๆ แต่คราวนี้เป็นเรื่องสถานการณ์โควิด-19 ข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อีกทั้งยังได้ข้อมูลจากประชาชนที่ส่งมายังพรรค พท. เพิ่มเติมในการพิจารณา ดังนั้นข้อมูลในการอภิปรายจะมีการอัพเดทอยู่ตลอดเวลา

“มั่นใจว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งระหว่างยื่นอภิปรายนายกฯ ยุบสภาฯ ไม่ได้ แต่ถ้าผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าเสียงออกมานายกฯ ได้รับเสียงไม่พอ หมายถึงไม่ได้รับความไว้วางใจ นายกฯ ต้องออกโดยปริยาย” นายประเสริฐ กล่าว

เมื่อถามว่า ข้อมูลที่มีอยู่จะถึงขั้นที่พรรคร่วมรัฐบาลจะถอนตัวได้หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนคิดว่าถ้าพรรคร่วมรัฐบาลได้ฟังข้อมูลแล้ว หากจะโหวตให้นายกฯ ก็ต้องคิดหนัก 

เมื่อถามว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินที่ส่อการทุจริต จะยื่นให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือไม่นั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า เราเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการบริหารงานที่ผิดพลาดทำให้เกิดความเสียหายอันนี้เราก็จะยื่น และที่ส่อไปในทางทุจริตเราก็จะยื่น

ด้าน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค พท. กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ข้อมูลจะเน้นไปในการทุจริต และเรื่องความมั่นคง โดยเน้นไปที่ 3 ป. โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่อีก 2 ป. ไม่บอกว่าเป็นใคร ยืนยันว่ามีข้อมูลและหลักฐานชัดเจน เช่น เรื่องเรือดำน้ำ และสัญญาจีทูจีเก๊ เป็นต้น หากเปิดเผยมา เชื่อว่าประชาชนจะรับไม่ได้ ท่ามกลางประชาชนกำลังอดอยากหิวโหยและมีผู้เสียชีวิตอยู่ทุกวัน 

เมื่อถามว่า กรณีอีก 1 ป. คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่แล้ว ถูกพรรคก้าวไกลปฏิเสธยื่นรายชื่อถูกอภิปราย โดยครั้งนี้จะมีปัญหากันภายในพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือไม่ นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า อยู่ที่ข้อมูลในการอภิปราย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด ถ้าข้อมูลถึงจริงก็ต้องว่ากันไปตามเนื้อผ้า เพราะมันมีความสัมพันธ์กัน อย่างกรณีเรือดำน้ำ ถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร มีความเกี่ยวข้องในเรื่องนี้หรือไม่ ถ้าบอกว่าจะอภิปรายแค่ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่อภิปราย พล.อ.ประวิตร มันเป็นไปได้หรือไม่.