เมื่อวันที่ 4 พ.ค. น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้รายงานว่า นายทะเบียนสหกรณ์ มีคำสั่งให้คณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว สาเหตุจากกรรมการสหกรณ์ไม่ตรวจสอบยอดความเสียหายให้แล้วเสร็จภายในกำหนดของนายทะเบียนเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อาจทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้างขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ได้กำชับให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ทำความเข้าใจกับสมาชิกในเรื่องสภาพคล่องของสหกรณ์แห่งนี้ซึ่งมีอยู่มากเพื่อไม่ให้เกิดความตระหนกและแห่มาถอนเงิน

‘มนัญญา’สั่งเดินหน้าทวงคืนทรัพย์สินจากอดีตกก.สอ.สรฟ.คืนสมาชิก

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ (กสส.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค. นายทะเบียนสหกรณ์ ได้ออกคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ ที่ (สสพ.1) 9/2565 เรื่องให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว (ชุดที่ 50) จากนั้นได้มีคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ที่ (สสพ.1) 10/2565 ลงวันที่ 3 เม.ย.65 เรื่องมอบหมายให้ผู้ตรวจการสหกรณ์ดำเนินการแทนคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องให้แล้วเสร็จตามวิธีการและระยะเวลาที่กำหนด 30 วัน และให้สอบสวนหาผู้กระทำการทุจริตและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินฝากของสมาชิก พร้อมรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต พร้อมทั้งตรวจสอบยอดการทุจริตทั้งหมด

“กรณีนี้ฝากแจ้งสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ ทุกท่านว่าไม่ต้องตื่นตระหนกมาถอนเงิน เนื่องจากสภาพคล่องของสหกรณ์ยังมีอยู่มาก และเมื่อชุดของผู้ตรวจสหกรณ์เข้าตรวจสอบบัญชีแล้วเสร็จ จะมีการคืนเงินเข้าบัญชีตามเงินออมจริงของท่านทุกประการ และหากการตรวจสอบไม่พบว่ามีกรรมการผู้ใดเข้าไปมีส่วนในการทุจริตก็จะออกคำสั่งให้กลับเข้าทำหน้าที่เช่นเดิม” อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าว

ทั้งนี้ คำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ ที่ (สสพ.1) 9/2565 เรื่องให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว โดยระบุว่า ด้วยปรากฏข้อเท็จจริงตามรายงานผลสอบกิจการและฐานะการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด ซึ่งผู้ตรวจการสหกรณ์เข้าทำการตรวจสอบสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2565 พบว่ายอดเงินรับฝากของสมาชิกบางรายไม่ตรงกับยอดเงินรับฝากคงเหลือในบัญชีคุมของสหกรณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่สหกรณ์อาจมีการกระทำการทุจริต ยักยอกเงินฝากสมาชิก เบื้องต้นพบความเสียหายจำนวนมาก คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับหัวหน้าการเงินและผู้จัดการสหกรณ์ เมื่อ 3 เม.ย.65 นายทะเบียนสหกรณ์จึงได้มีคำสั่งที่ (สสพ.1) 6/2565 ลงวันที่ 4 เม.ย.65 ให้สหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริตอย่างไร ผู้ใดกระทำผิดและรวบรวมหลักฐานการกระทำผิดโดยให้ดำเนินการแล้วเสร็จใน 7 วัน แต่เมื่อพ้นกำหนดพบว่าสหกรณ์ยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้นยังไม่ทราบยอดความเสียหาย

ซึ่งกรณีการทุจริตพบว่ามีความเสียหายจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อสหกรณ์และประโยชน์ส่วนรวมจำนวนมาก การดำเนินการที่ล่าช้าไม่เป็นไปตามคำสั่งนายทะเบียน จึงเป็นการกระทำการหรืองดเว้นการกระทำในการปฏิบัติหน้าที่ของตนอันอาจเสื่อมเสียผลประโยชน์สมาชิก ประกอบกับมีเหตุอันสงสัยได้ว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้กระทำการทุจริตในสหกรณ์เพิ่มเติม นายทะเบียนสหกรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การดำเนินการสอบสวนหาผู้ใดเป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายแก่สมาชิก ผู้ใดที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อให้ทราบความเสียหายทั้งหมดพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวกับการกระทำทุจริตและให้ตรวจสอบยอดเงินสมาชิกทุกราย โดยให้ดำเนินการโดยเร็ว จึงอาศัยอำนาจตามพรบ.สหกรณ์ พ.ศ. 2542 มาตรา 22 ประกอบคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ ที่ 2/2562 เรื่องมอบอำนาจให้รองนายทะเบียนสหกรณ์ปฏิบัติหน้าที่แทนนายทะเบียนสหกรณ์ สั่ง ณ วันที่ 27 พ.ค.2562 นายทะเบียนจึงออกคำสั่งที่ (สสพ.1) 9/2565 ให้คณะกรรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชุดที่ 50 จำนวน 15 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวมีกำหนดเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งนี้ ทั้งนี้หากกรรมการประสงค์อุทธรณ์คำสั่ง ให้ยื่นต่อกรรมการพิจารณาใน 30 วัน