นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมธุรกิจพลังงานอยู่ระหว่างการดำเนินโครงการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 เห็นชอบ โดยให้ส่วนลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินแก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ (รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง) ที่มีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่จดทะเบียนเป็นผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างกับกรมการขนส่งทางบก จำนวนสิทธิรวม 106,655 ราย จะได้รับสิทธิช่วยเหลือค่าน้ำมัน ไม่เกิน 250 บาทต่อคนต่อเดือน รวม 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2565 ซึ่งมาตรการนี้จะมีส่วนสำคัญในการลดภาระรายจ่ายให้แก่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

“ราคาพลังงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสาเหตุมาจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาและยังไม่มีท่าทีว่าจะยุติลง แม้ว่าที่ผ่านมากระทรวงพลังงานได้ออกมาตรการต่างๆ แต่เนื่องจากงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด ทำให้การช่วยเหลืออาจจะไม่ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ใช้ แต่กระทรวงพลังงานมิได้นิ่งนอนใจในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้มีมาตรการช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้น้ามันเบนซินในกลุ่มผู้ขับขี่จักรยานยนต์สาธารณะดังกล่าวในเวลาต่อมา ซึ่งถือเป็นกลุ่มเปราะบางผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน” นายกุลิศกล่าว

น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า กรมฯ ได้ดำเนินโครงการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินสำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ หรือเรียกว่าโครงการ “วินเซฟ” โดยร่วมกับผู้ค้าน้ำมันและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และธนาคารกรุงไทย เป็นผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น ถุงเงิน และ เป๋าตัง เพื่อรองรับการใช้สิทธิ “วินเซฟ” โดยให้ส่วนลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินแก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ (รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างป้ายเหลือง) ที่มีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่จดทะเบียนเป็นผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างกับกรมการขนส่งทางบก (ภายในวันที่ 22 มีนาคม 2565) ในรูปแบบรัฐร่วมจ่าย 50% ไม่เกิน 50 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 250 บาทต่อคนต่อเดือน

สำหรับผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่เข้าเกณฑ์ได้รับสิทธิ สามารถกดยืนยันสิทธิที่แอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” แบนเนอร์ “สิทธิวินเซฟ” และสถานีบริการน้ำมันที่เข้าร่วมโครงการสามารถกดยืนยันสิทธิที่แอพพลิเคชั่น “ถุงเงิน” ได้ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป และเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2565 ณ สถานีบริการน้ำมันที่เข้าร่วมโครงการ ส่วนการใช้งานจะมีความคล้ายกับโครงการคนละครึ่ง ที่จะต้องเติมเงินเข้าไปในบัญชีก่อนถึงจะสามารถใช้งานได้ โดยขณะนี้มีสถานีบริการน้ำมันสมัครเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1,000 แห่ง และสถานีบริการสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง โดยกรอกแบบแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการ (สำหรับสถานีบริการ) ได้ที่ www.doeb.go.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ Call Center โครงการฯ โทร. 0-2794-4308-9 (ในวัน และเวลาราชการ)