เมื่อวันที่ 5 พ.ค. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) แถลงข่าวเปิดตัวต้อนรับ นายจอนนี่ แอนโฟเน่ ดาราชื่อดัง เข้าเป็นสมาชิกพรรค ทสท. ว่า นายจอนนี่ ขออาสาเข้ามาทำงานแก้ปัญหาความทุกข์ยากที่ประชาชนได้รับตลอดหลายปีที่ผ่านมา พร้อมอาสาเป็นผู้รับใช้ประชาชนในเขตมีนบุรี เขตคันนายาว และเขตคลองสามวา ตนจะมอบหมายให้นายจอห์นนี่ ดูแลงานเรื่องการสร้างโอกาสสร้างรายได้ให้ประเทศ ด้วยนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ creative economy เช่น ศิลปวัฒนธรรม หนัง ละคร ภาพยนตร์ ศิลปิน เพลง รวมถึงอาหารไทย เพื่อสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ ส่งออก Soft power ของไทยไปสู่ตลาดโลกทั้งจีน ประเทศในกลุ่ม CLMV อาเซียน รวมทั้งยุโรปและอเมริกา

นายจอนนี่ กล่าวว่า ตนสนใจในปัญหาบ้านเมืองมาโดยตลอด ในฐานะคนไทยที่อยากเห็นประเทศเจริญก้าวหน้า และตลอด 7-8 ปีตนได้เรียนรู้และเห็นความจริงแล้วว่าการยึดอำนาจรัฐประหารไม่ใช่ทางออกประเทศ ประชาธิปไตยที่ประชาชนมีส่วนร่วมเท่านั้นที่จะเป็นทางรอดประเทศอย่างแท้จริง ตนตัดสินใจลงมาทำงานการเมืองเต็มตัว และได้ลงพื้นที่ทำงานมาแล้ว 3-4 เดือน จึงเห็นความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสของพี่น้องประชาชน และมีความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเข้ามาทำงานแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนร่วมกับพรรคไทยสร้างไทย

นายจอนนี่ กล่าวว่า เหตุที่เลือกทำงานการเมืองกับพรรค ทสท. เพราะเห็นความมุ่งมั่นทุ่มเทของคุณหญิงสุดารัตน์ ที่ทำงานอย่างหนักทุกวัน เพื่อทำภารกิจสุดท้ายในการสร้างพรรค ทสท. ให้เป็นสถาบันการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง โดยมีจุดมุ่งหมายในการสร้างโอกาสให้กับคนไทยทุกคนได้มีเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยพรรค ทสท. มีจุดยืนที่ชัดเจน เป็นพรรคที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยไม่ยอมเป็นที่เหยียบยืนให้เผด็จการ

“ผมเห็นว่าพรรค ทสท. จะเป็นทางเลือกใหม่และเป็นทางรอดของประเทศได้ จึงได้มาร่วมสร้างพรรค ทสท. ให้เป็นเครื่องมือในการทำงานที่ดีที่สุดให้พี่น้องประชาชน มุ่งดูแลปัญหาปากท้องและสร้างเศรษฐกิจไทยให้กลับมาแข็งแกร่ง”

นายจอนนี่ กล่าวด้วยว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้เข้ามาร่วมงานกับพรรค ทสท. จะขอใช้ความรู้ความสามารถประสบการณ์ตลอด 36 ปีบนเส้นทางอุตสาหกรรมบันเทิง มาต่อยอด ในการสร้างสรรค์เศรษฐกิจให้กับประเทศ ที่ผ่านมามีโอกาสไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ทราบว่าวัฒนธรรมไทยมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ที่เข้าไปมีบทบาทในพื้นที่ต่างๆของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ภาพยนตร์ หนัง ละคร ของไทยดังไกลไปถึงจีน หรือในอินโดนีเซีย ถือเป็นตลาดใหญ่และได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน เมื่อหันมาดูในประเทศไทย กลับไม่ได้รับการดูแลส่งเสริมจากภาครัฐเท่าที่ควร โดยเฉพาะการส่งเสริมการแสดง การเรียนการสอน ที่หลายกระทรวงของรัฐ ต้องทำงานบูรณาการร่วมกันไม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง จึงจะสามารถขยายตลาดให้เติบโตไปยังต่างประเทศได้ ดังนั้นตนจะขอเป็นส่วนหนึ่งของทีมไทยสร้างไทย ที่จะร่วมผลักดันนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ประกาศดัน ”ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมบันเทิงครบวงจร” เพื่อเป็นบันไดไปสู่การฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ สามารถส่งขายออกไปได้ทั่วโลกได้ ซึ่งจะทำรายได้มหาศาลให้กับประเทศไทย ไม่ใช่เฉพาะแต่อุตสาหกรรมบรรเทิง แต่รวมทั้งสินค้าไทย อาหารไทยทุกชนิดอีกด้วย.