จากกรณี นายพงศกร จันทร์แก้ว หรือ แรมโบ้ “อดีตพระกาโตะ” พระนักเทศน์ชื่อดัง ออกมายอมรับว่า ได้โอนเงิน 3 แสนบาทไปให้แก่พระคนกลาง เพื่อให้นำไปมอบให้ น.ส.ตอง สำหรับรักษาอาการป่วยไบโพลาร์ นอกจากนี้ยังมีเงินอีกจำนวนหนึ่ง เอาไว้สำหรับจ่ายให้สื่อท้องถิ่นเพื่อปิดข่าว กลางรายการโหนกระแส ทางช่อง 3 ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น ในขณะที่เงิน 6 แสนบาทที่นำมาเคลียร์สาวตอง 3 แสนบาท และเคลียร์นักข่าว 3 แสนบาท เป็นเงินที่กาโตะพร้อมคณะกรรมการผู้มีอำนาจไปเบิกออกมาจากบัญชีวัด จนกาโตะยอมรับและนำเงิน 6 แสนมาคืนในภายหลัง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น


เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 5 พ.ค. นายธนาชัย เกตุโรจน์ ประธานชมรมทนายความเพื่อประชาชนเมืองคอน กล่าวว่า ในทางกฎหมายถือว่าเป็นการกระทำความผิดสำเร็จแล้ว การเอาไปใช้ส่วนตัว อาจจะโดนข้อหายักยอกทรัพย์ของวัดได้ โทษจำคุก 3 ปี แต่ถ้ากาโตะ เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการรักษาทรัพย์และยักยอกทรัพย์ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 ยอมความไม่ได้ และอาจผิด มาตรา 157 อีกด้วย ความผิดเหล่านี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดินยอมความไม่ได้


ด้านนายยุทธนา แต่งวงศ์ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตนได้เข้าให้ปากคำกับตำรวจในผู้เสียหาย ในกรณีที่สมีกาโตะ ระบุว่าให้เงิน 3 แสนบาท เพื่อเคลียร์ปิดข่าวกับนักข่าวท้องถิ่น แม้ในเวลาต่อมา พระอาจารย์ดอน พระคนกลางจะบอกว่าเงิน 3 แสนไม่ได้จ่ายให้นักข่าวแต่อย่างใด เพราะนักข่าวไม่ยอมรับเงิน ยังอยู่กับพระดอนทั้งหมด แต่การระบุของสมีกาโตะ สร้างความเสียหายให้กับนักข่าวท้องถิ่นทั้งหมด นอกจากนี้ตำรวจจะเชิญพระย้อย มาสอบสวนที่มาที่ไปของคลิปและข้อมูลฉาว ก่อนจะเรียกพระอาจารย์ดอนมาสอบสวนปากคำ ในฐานะผู้รับเงินมาเคลียร์แต่เอาเงินไว้เสียเองโดยไม่แจ้งสมีกาโตะ จากนั้นจะพิจารณาสรุปสำนวนว่าเข้าข่ายความผิดข้อหาใดบ้าง อย่างไรก็ตาม หากมีหมายเรียกสมีกาโตะ และพระอาจารย์ดอนมาพบ แต่ไม่ยอมมาพบตามหมายเรียก ทางตำรวจจะพิจารณาเสนอขอออกหมายจับต่อไป.