เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ยื่นคำร้องฝากขังผ่านระบบการประชุมทางจอภาพ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อายุ 44 ปี ในความผิดฐานกระทำอนาจาร แก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ต่อหน้าธารกำนัลและกระทำอนาจาร แก่บุคคลอายุมากกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เนื่องจากต้องสอบพยาน อีก 7 ปาก, รอผลตรวจของกลางและรอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา ขอให้ศาลออกหมายขังผู้ต้องหาระหว่างการสอบสวนที่กำหนด 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 6-17 พ.ค.65 นี้

ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนระบุว่า เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูง พฤติการณ์กระทำผิดของผู้ต้องหามีลักษณะเป็นภัยสังคม ทั้งมีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์กับผู้ต้องหาจำนวนหลายราย อีกทั้งผู้ต้องหาเคยมีที่พำนักอยู่ต่างประเทศ ประกอบกับ ผู้ต้องหามีฐานะทางสังคม ซึ่งอาจจะไปข่มขู่พยานและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และหากปล่อยตัวไปเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี หรือก่อเหตุร้ายประการอื่น จึงขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหานี้ หากศาลอนุญาตให้ผู้ต้องหาประกันตัว ขอให้กำหนดเงื่อนไข ห้ามไม่ให้ผู้ต้องหาไปข่มขู่พยาน ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และเดินทางออกนอกประเทศ

ศาลพิจารณาคำร้องแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้

ต่อมาได้มีญาติและทนายของผู้ต้องหามายื่นเรื่องขอปล่อยชั่วคราว ศาลอาญากรุงเทพใต้พิจารณาคำร้องแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันนายปริญญ์ ผู้ต้องหาโดยศาลตีหลักทรัพย์เป็นเงินสด 2 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

ด้านนายพีรนัทธ์ วงศ์สวัสดิ์ ทนายความของนายปริญญ์ กล่าวว่า เรื่องของบทสนทนาในแอพพลิเคชั่นไลน์ที่ปรากฏในข่าวเป็นของจริง ขณะนี้ทีมทนายใช้ยื่นเป็นหลักฐานให้พนักงานสอบสวนในคดีเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องกลับ และต่อสู้ทางคดีกับผู้เสียหายแล้ว โดยหลักฐานการสนทนาในแอพพลิเคชั่นดังกล่าว ยังมีมากกว่านี้ อีกทั้งขณะนี้สามารถรวบรวมพยานบุคคลมาประกอบกับหลักฐานส่วนนี้ได้ โดยเชื่อว่าหลักฐานการสนทนานี้สามารถหักล้างคำให้การของผู้เสียหายก่อนหน้าได้