เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดฝนตกหนักจนเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ถนนหนทาง และพื้นที่ทางการเกษตรในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.วิภาวดี อ.ไชยา และ อ.ท่าฉาง รวม 3 ตำบล 8 หมู่บ้าน มีปริมาณน้ำฝนมากสุดที่บ้านเทพนิมิตรหมู่ 11 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี วัดได้ 125 มิลลิเมตร และกระแสน้ำป่าไหลแรงกัดเซาะถนนขาด ทำให้รถกระบะที่มี นายสำราญ สำเนากาญจน์ เป็นคนขับพลัดตกลงในคลองหน้าบ้าน นายวิโรจน์ เสาวพงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 11 โดย นายสำราญ ไม่ได้รับบาดเจ็บ และที่บ้านเคี่ยมเพาะ ในซอย 3 หมู่ที่ 5 ต.ปากฉลุย อ.ท่าฉาง น้ำป่าไหลเชี่ยวผ่านสะพานบล็อกท่อเหลี่ยมทำให้รถกระบะถูกกระแสน้ำพัดตกถนนอีก 2 คัน ไม่มีผู้บาดเจ็บ อย่างไรก็ตามยังพบว่ามีแรงงานชาวเมียนมา ขี่ จยย.ถูกน้ำป่าพัดหายไปในพื้นที่ ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าไปติดอยู่ที่ไหน ส่วนที่สะพานใกล้โรงเรียน ตชด.บ้านคลองวาย หมู่ที่ 7 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี มีน้ำป่าพัดกอไผ่และต้นไม้ล้มมากองปิดถนนบนสะพาน นายนพดล ขาวมะลิ นายอำเภอวิภาวดี ได้ระดมกำลัง อส.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านช่วยกันเคลียร์เปิดเส้นทางได้แล้ว

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้นายอำเภอทั้ง 3 พื้นที่ ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ปภ.สาขาท่าชนะ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อปพร.อส. กู้ภัยมูลนิธิร่วมใจสยามปู่อินทร์ (บ้านยางโพรง) กู้ชีพกู้ภัย อบต.ปากหมาก เข้าช่วยเหลือเบื้องต้น ร่วมกันช่วยยกของขึ้นที่สูง เนื่องจากฝนยังมีแนวโน้มตกลงมาอีก ขณะนี้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยวาตภัยและดินถล่ม จ.สุราษฎร์ธานี ได้สั่งการอำเภอและหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการ แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองด้านล่างและพื้นที่รับน้ำบริเวณชายทะเลอ่าวไทย เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง.