เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานเกี่ยวกับความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของนักแสดงสาว แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ ภายหลังจากเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีได้นำสำนวนการสอบสวนส่งฟ้องผู้ต้องหา 6 คน ได้แก่ คนบนเรือสปีดโบ๊ตทั้ง 5 ราย และกุนซือบงการ 1 ราย จำนวน 5 ลัง ส่งมอบให้ทางอัยการจังหวัดนนทบุรีพิจารณา ก่อนส่งฟ้องศาลจังหวัดนนทบุรี นัดฟังคำสั่งวันที่ 27 พ.ค. ปรากฏว่าสำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนที่ทำคดีแตงโม สอบสวนเพิ่มเติมอีก 20 ประเด็น เนื่องจากอัยการเห็นว่า สำนวนที่ส่งมายังไม่สมบูรณ์และไม่รัดกุมเพียงพอที่จะสั่งฟ้องผู้ต้องหาได้ ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

สำหรับ 20 ประเด็นที่อัยการสั่งสอบเพิ่มนั้น พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ขอเวลาในการสรุปสำนวนที่มีประเด็นกับทางอัยการจังหวัดนนทบุรีก่อน ขอใช้เวลาในการตรวจสอบ จากนั้นจึงจะมีการเรียกตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คน หรือจะมีการเรียกใครเข้ามาสอบสวนเพิ่มเติมบ้าง ซึ่งในประเด็นที่ทางอัยการจังหวัดนนทบุรีสั่งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติมนั้น เป็นกระบวนการขั้นตอนทางกฎหมายที่ตำรวจสามารถทำได้อยู่แล้ว

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จะมีการแถลงข่าวใหญ่เปิดโปงขบวนการสร้างหลักฐานเท็จคดีแตงโม ในวันที่ 9 พ.ค. นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความกังวลใจหรือไม่ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ เผยว่า ไม่กังวลใจ ตนมั่นใจว่าตำรวจของเราทุกคนทำงานอย่างตรงไปตรงมาตามข้อบทกฎหมายและพยานหลักฐานที่ปราฏขึ้นจริง แล้วพยานหลักฐานทุกชิ้นก็เป็นความจริง ไม่ได้ปั้นแต่งขึ้นมา ไม่ได้ไปรับเงินรับทองใครมาเพื่อให้ความช่วยเหลือใคร หรือแทรกแซงใคร รวมถึงพนักงานสอบสวนก็มั่นใจ ดังนั้น คนที่จะพูดจะแฉอะไรก็จะต้องรับผิดชอบตัวเอง และตนให้ความมั่นใจได้ว่า พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานมาด้วยความบริสุทธิ์ ตรงไปตรงมา ไม่มีการแทรกแซงใดๆ ทั้งสิ้น เพราะทำงานกันเป็นคณะ อย่างคณะสอบสวนทำงาน 20-30 คน คณะของทีมแพทย์อีก คณะของกองพิสูจน์หลักฐานอีก รวมๆ แล้วเจ้าหน้าที่เป็นร้อยคน จึงมั่นใจเลยว่าไม่มีใครกล้าตุกติก รวมถึงยืนยันต่อนายอัจฉริยะเลยว่าไม่หวั่นไหว ของจริงคือของจริง เขาจะพูดหรือขู่ยังไง ไม่มีใครกลัวสักคน เพราะสิ่งที่ตำรวจทำคือของจริง

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า สำหรับ 20 ประเด็นที่อัยการสั่งสอบเพิ่มนั้น ไม่ใช่ประเด็นหลักในสำนวนคดี เป็นเพียงประเด็นปลีกย่อยเกี่ยวกับรายละเอียดของวัตถุพยานต่างๆ อาทิ ขนาดของเรือสปีดโบ๊ตลำเกิดเหตุ ความกว้างของเรือวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องได้มาจากที่ใด เก็บไปตรวจสอบวันที่เท่าไหร่ รวมถึงประเด็นต่างๆ ที่ผู้คนในสังคมยังมีข้อสงสัย โดยคำสั่งที่อัยการให้สอบสวนเพิ่มเติมดังกล่าว ไม่ใช่เป็นการตีกลับสำนวน แต่เป็นการให้สอบเพิ่มเติมในบางประเด็นให้รัดกุม

ทั้งนี้ ในวันที่ 9 พ.ค. 65 ทีมพนักงานสอบสวนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะร่วมประชุมกันที่ บก.ภ.จ.นนทบุรี เพื่อแบ่งงานสอบสวนใน 20 ประเด็น ตามที่อัยการให้สอบเพิ่ม หลังจากนั้นจะเรียกผู้เกี่ยวข้อง อาจจะรวมถึงผู้ต้องหาบางรายเพื่อเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าตำรวจชุดคลี่คลายคดีแตงโม พร้อมด้วยฝ่ายกฎหมายตำรวจภูธรภาค 1 ได้มีการประชุมหารือกัน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในการแจ้งความดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม รวมทั้งบุคคลอื่นๆ ที่ออกมาพูดกล่าวหาพาดพิงคณะทำงานคดีแตงโม ทำให้สังคมและประชาชนเกิดความสับสนจนเกิดความเสียหายทั้งต่อตัวบุคคลและองค์กร โดยพนักงานสอบสวนจะเข้าไปแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น, แพทย์สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ จะเข้าแจ้งความที่ สน.ปทุมวัน และตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 ปทุมธานี จะเข้าแจ้งความที่โรงพักในพื้นที่ จ.ปทุมธานี แต่ยังไม่ระบุวันเวลาที่แน่ชัด.