จากกรณีหญิงสาวรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความ “เตือนภัย” โดยระบุว่า “พึ่งโดนหมอที่คลินิกนึงลวนลามมา เราไปรักษาทอนซิลอักเสบ โดยเราขอฉีดยา ทั้งห้องมีแค่เรากับหมอ 2 คน เขาให้เราถอดกางเกง นอนตะแคงหันก้นออกให้หมอ และบอกให้เราขยับตัวไปตรงขอบเตียงเยอะมาก ขณะฉีดก็มีการเอาตัวมาพิงเรา และเอาอวัยวะเพศมาถูไปมาตรงก้นเรา” จนเป็นวิพากษ์วิจารณ์นั้น

เหยื่อสาวโผล่อีก 3 โดนคลินิกเดียวกันหมด หมอหื่นสั่งถอดกางเกงอวัยวะเพศถูก้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 พ.ค. น.ส.ปู (นามสมมุติ)​ อายุ 25 ปี พนักงานขายเครื่องสำอางสาว เปิดใจถึงกรณีดังกล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปพบแพทย์ อายุ 40-50 ปี ที่คลินิกย่านรามคำแหง ด้วยอาการป่วยเป็นโรคต่อมทอนซิลอักเสบ ซึ่งเป็นบ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งที่ผ่านมามักจะไปรักษาที่โรงพยาบาล โดยแพทย์จะให้ทานยาหรือฉีดยาบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อให้หายเร็ว แต่วันเกิดเหตุตนเองเจ็บคอมาก และที่โรงพยาบาลไม่มีแพทย์เข้าเวรแล้ว ทำให้ตนเองตัดสินใจไปรักษาที่คลินิกดังกล่าว ซึ่งเคยไปใช้บริการ แต่ไม่เคยรักษากับแพทย์คนดังกล่าว

น.ส.ปู กล่าวต่อว่า ระหว่างซักถามอาการเบื้องต้นก็ไม่ได้พบความผิดปกติ และตนได้ขอให้ฉีดยาเพื่อจะได้หายไว แพทย์จึงให้ไปนอนรอบนเตียง ตะแคงหันหลัง และให้ถอดกางเกง โดยบอกว่าจะฉีดบริเวณสะโพก ตนก็พยายามถามเหตุผลว่าทำไมต้องฉีดสะโพก เพราะที่โรงพยาบาลเคยฉีดแต่ที่บริเวณข้อพับแขน แพทย์ชี้แจงว่าฉีดข้อพับแขนจะออกฤทธิ์แรงเกินไป ตนจึงไม่เอะใจ แต่ด้วยความที่ไม่เคยฉีดสะโพก จึงไม่ทราบว่าต้องถอดกางเกงลงมาถึงบริเวณใด ประกอบกับใส่กางเกงเอวสูง เมื่อถอดจะต้องถอดลงมาต่ำกว่ากางเกงชั้นใน แต่ตนก็คิดว่าเพื่อความสะดวกของแพทย์ หากต่ำเกินไป แพทย์น่าจะแจ้งเอง จากนั้นแพทย์คนดังกล่าวก็บอกให้ตนขยับเข้าไปใกล้อีก จากที่นอนอยู่กลางเตียง ขยับไปจนริมสุดเลยขอบเล็กน้อย และแพทย์ก็เริ่มฉีดยาบริเวณสะโพก และใช้มือนวดไปด้วย ก่อนจะรู้สึกว่าเป้ากางเกงเริ่มแนบมาที่ก้น และขยับเอวไปมา จนตนเองรู้สึกถึงอวัยวะเพศเริ่มแข็งตัว แต่ก็ไม่กล้าโวยวายเพราะเข็มยังปักอยู่ ทำได้แค่นอนแข็งทื่อ จนฉีดยาเสร็จ หมอก็ไปนวดเท้าต่อเพื่อดูอาการแพ้มดกัด ทั้งที่ตนยังไม่ได้ใส่กางเกงให้เรียบร้อย และเมื่อบอกว่าอาการที่เท้าไม่เป็นอะไรแล้ว แพทย์ยังหาเรื่องนวดต่อ รวมเวลากว่า 5-7 นาที ก่อนจะกลับไปนั่งโต๊ะและจ่ายยาตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

น.ส.ปู กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุได้บอกครอบครัวทันที แต่เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอ มีเพียงคลิปสั้นๆ ที่ถ่ายไว้ตอนฉีดยาแรกๆ ที่แพทย์ยืนชิดเท่านั้น จึงกลัวว่าจะไม่สามารถเอาผิดได้ จึงตัดสินโพสต์ลงโซเชียลมีเดียแทน ซึ่งหลังโพสต์ก็มีผู้เสียหาย 8 คนติดต่อมาว่าเจอกรณีเดียวกันกับนายแพทย์คนดังกล่าว บางรายมาฉีดยา บางรายมานวดเพื่อกายภาพ บางรายโดนขณะเรียนมัธยมปลายอายุไม่ถึง 18 ปีด้วยซ้ำ อายุมากสุดคาดว่าน่าจะ 40 ปี รายที่หนักสุดคือมานวดกายภาพ แต่ระหว่างนวด นายแพทย์ได้เอาเป้ามาสัมผัสตามตัว และไล่ขึ้นมาจนเป้ากางเกงใกล้ชิดกับใบหน้าผู้เสียหายมากจนได้กลิ่นปัสสาวะ

อย่างไรก็ตาม ตนก็อยู่ระหว่างการปรึกษากับผู้เสียหายรายอื่นว่าจะดำเนินคดีเอาผิดนายแพทย์คนดังกล่าวอย่างไร.