เมื่อวันที่ 9 พ.ค. นายจุมพส พันธุ์สัมฤทธิ์ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยขั้นตอนการแบ่งทรัพย์สินเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติอัลฟ่าเบย์ (AlplaBay) กว่า 1,600 ล้านบาท ระหว่างไทย และตาม พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศทางอาญา ว่า ขณะนี้ยังไม่มีเกณฑ์แบ่งทรัพย์ เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีแรกและเป็นคดีใหญ่ที่มีการริบทรัพย์ที่ถึงที่สุดแล้ว จึงยังไม่มีระเบียบและขั้นตอนชัดเจน สำหรับทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์ 7 รายการ ทั้งบ้านพักและรถยนต์ รวมทั้งบัญชีเงินฝาก มูลค่าประมาณ 413 ล้าน ที่อยู่ในประเทศไทย ส่วนบิตคอยน์จำนวน 911 บิทคอยน์ มูลค่า 1,244 ล้านบาท จะต้องเจรจากับทางสหรัฐอเมริกา เนื่องจากขณะนี้บิตคอยน์อยู่ที่สหรัฐแล้ว โดยทรัพย์สินตามคำพิพากษาของศาลตลิ่งชันทั้งหมดจะต้องถูกนำมาขายทอดตลาด ส่วนเงินในบัญชีก็สามารถยึดได้เลย แต่ทั้งหมดที่รวบรวมได้ ฝ่ายไทยจะต้องเหมารวมเพื่อนำไปเจรจากับทางสหรัฐ

ศาลสั่งริบทรัพย์มาเฟียแคนาดา1.6พันล้าน หลังฆ่าตัวตายในเรือนจำ

“โดยการเจรจาจะต้องมีตัวแทนจากกระทรวงการคลังเข้ามาร่วมอยู่ในทีมเจรจากับทางอัยการ เพราะตามระเบียบหากมีการริบทรัพย์จากคดีใดก็ตาม ทรัพย์ทั้งหมดจะตกเป็นของแผ่นดิน โดยอัยการจังหวัดตลิ่งชันจะต้องไปขอคัดคำพิพากษาส่งมาที่อัยการฝ่ายต่างประเทศ จากนั้นจึงจะมีการตั้งคณะทำงานจากหลายหน่วยงานเพื่อเป็นทีมเจรจา อย่างไรก็ตาม คดีที่ต้องยึดทรัพย์ระหว่างประเทศยังมีอีกจำนวนมาก แต่คดียังไม่ถึงสุด ยกเว้นคดีนี้ซึ่งเป็นคดีใหญ่และมีมูลค่าทรัพย์สูงถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย” อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าว