เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จ.ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา นายนพปฎล มุณีรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จ.ยะลา เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนได้รับแจ้งจากผู้ปกครองในกลุ่มไลน์นักเรียนระดับชั้น ม.4 ว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพได้เข้ามาแอบแฝงในกลุ่มไลน์ของนักเรียนชั้น ม.4 และแจ้งให้ผู้ปกครองโอนเงินให้กับทางโรงเรียนรายละ 1,000 บาท เพื่อเปิดสมุดบัญชีออมทรัพย์เพื่อการศึกษา โดยให้เสร็จสิ้นก่อน​ 12.00 น. ของวันที่ 9 พ.ค. กระทั่งผู้ปกครองหลงเชื่อโอนเงินเข้าไปทั้งหมด 15 ราย จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวได้กระทำการในลักษณะของการหลอกโอนเงินผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ดแล้วใช้ชื่อบัญชีส่วนตัว 

นายนพปฎล กล่าวอีกว่า กลุ่มมิจฉาดังกล่าวได้แฝงตัวเข้ามาในกลุ่มไลน์นักเรียนในช่วงที่มีการเปิดรับสมัครนักเรียนใหม่ โดยใช้ชื่อครูที่มีอยู่เดิมเปลี่ยนเพียงตัวสะกด ขณะนั้นทางครูของโรงเรียนได้เปิดกลุ่มไลน์ของแต่ละชั้นเรียนเพื่อเป็นการสื่อสารระหว่างผู้ปกครองและนักเรียน โดยไลน์ดังกล่าวเป็นลักษณะรูปแบบ Open Chat คือระบบห้องแชตที่เปิดกว้างให้สามารถเข้าร่วมกันมาคุยกันในเรื่อง เปิดแบบสาธารณะ สร้างโอกาสให้กลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวเข้าแฝงตัวเข้ามา มีการใช้ชื่อครูที่มีอยู่เดิม ยิ่งทำให้นักเรียนและผู้ปกครองหลงเชื่อ ขณะที่ครูคนดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางโรงเรียนได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานที่มีอยู่เพื่อเข้าแจ้งความกับตำรวจ โดยมีนิติกรจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจังหวัดยะลาเป็นผู้ดำเนินการให้ รวมถึงชี้แจงทำความเข้าใจกับนักเรียนที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งเบื้องต้นหากนักเรียนคนใดที่มีความเดือดร้อนเรื่องเงินจริง ๆ เนื่องจากถูกหลอกโอนเงินไป ก็ขอให้แจ้งความประสงค์มาทางโรงเรียนได้เพื่อจะได้ช่วยเหลือในเบื้องต้น ทั้งนี้ตนยืนยันว่า ทางโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จ.ยะลา ไม่มีนโยบายในการเรียกเก็บเงินดังกล่าว ซึ่งการที่ทางโรงเรียนจะเรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษานั้น จะดำเนินการออกประกาศแจ้งผู้ปกครองอย่างชัดเจน โดยมีหนังสือจากสำนักงานเขตพื้นทีมัธยมศึกษาได้สั่งการมาเท่านั้น  และมีการเบิกจ่ายตามระเบียบของทางราชการเท่านั้น 

จึงอยากฝากถึงผู้ปกครอง หากรณีเป็นการเก็บเงินในลักษณะของนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ จะมีการสังเกตได้จาก ประกาศจากทางโรงเรียน ว่าจะเรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษาเท่าไหร่ นำไปใช้จ่ายอะไรบ้าง เพราะฉะนั้น ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพ มีการกระทำเป็นขบวนการ และใช้เวลาที่รวดเร็วมาก.