ตามที่ ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.1033/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.), น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที แนวร่วม พธม. และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล น้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุก มั่วสุม สร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง อั้งยี่ซ่องโจรฯ กรณีร่วมกันบุกยึดสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) ในช่วงการชุมนุมของ พธม. เพื่อขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เมื่อปี 2551 ต่อมา ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้ว เห็นว่า พวกจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง ที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษามานั้น ชอบแล้วอุทธรณ์จำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน

ยืนจำคุก ‘เจ๊ปอง-น้องสนธิ’ กับพวก 1 ปีไม่รอลงอาญา คดีพา พธม.บุก NBT ปี 51

ความคืบหน้า น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความกล่าวถึงคำพิพากษาศาลอุทรณ์ว่า มีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้น ตัดสินทั้ง 4 คน จำคุกคนละ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เสียชีวิตแล้ว ศาลจึงสั่งจำหน่ายคดี

ส่วนเรื่องคดี มีความกังวลใจในระดับหนึ่งแต่ก็น้อมรับคำพิพากษาของศาล และหลังจากนี้ จะดำเนินการยื่นขอประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์เดิม เป็นเงินสดจำนวน คนละ 2 แสนบาท ซึ่งการประกันอยู่ในเงื่อนไขของการประกัน ไม่มีปัญหาอะไร จะทราบผลอีกครั้งในเวลา 16.00 น. ตามดุลพินิจที่ศาลจะพิจารณาอนุญาตหรือไม่ และก็จะยื่นฎีกาต่อ เพราะทำเรื่องอุทธรณ์ไปหลายเรื่องที่อยากให้ศาลท่านพิจารณาตรงนี้อีกครั้งหนึ่ง.