เมื่อวันที่ 10 พ.ค. เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะราษฎรยกเลิก 112 (ครย.112) นำโดยนายสมยศ พฤษาเกษมสุข พร้อมด้วยมวลชนราว 30-40 คน รวมตัวด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ เพื่อทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษทางการเมือง 11 คน โดยทำหนังสือถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา ผู้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนฯ ที่กรุงวอชิงตัน ในวันที่ 12-13 พ.ค.นี้ ซึ่งในการประชุมดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปร่วมประชุมด้วย โดยมีวาระการชุมหารือในเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และความร่วมมือระหว่างไทยกับสหรัฐ

สำหรับหนังสือของ ครย.112 ระบุว่า เป็นที่น่าเสียใจและน่าละอายอย่างยิ่งสำหรับสหรัฐอเมริกาที่สนับสนุนประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ที่ต้องมาประชุมหารือกับพล.อ.ประยุทธ์ที่มาจากการรัฐประหาร ทำลายประชาธิปไตยละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ด้วยเหตุว่า

1.ในปี 53 ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ทบ. ได้นำกำลังทหารเข้าปราบปรามสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง มีการนำอาวุธสงครามเข้ามาสังหารผู้ชุมนุม มีผู้เสียชีวิตราว 100 ศพ โดยยังไม่มีการสอบสวนการกระทำความผิดกับผู้สั่งการสังหารประชาชนจนถึงปัจจุบันนี้

ในปี 57 พล.อ.ประยุทธ์ในขณะที่ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. ได้นำกำลังทหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน โดยอ้างว่าเพื่อปกป้องสถาบัน และสถาปนารัฐเผด็จการทหาร มีผู้ลี้ภัยทางการเมืองกว่า 300 คน ในจำนวนนี้มีผู้ถูกบังคับสูญหาย 9 คน

2.ในปี 63 เป็นต้นมา นักเรียน นักศึกษา ประชาชนได้รวมตัวกันเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบัน ให้เป็นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย แต่ถูกรัฐบาลปราบปรามอย่างรุนแรงด้วยการใช้กำลังตำรวจ และอาวุธเข้าสลายการชุมนุม

3.มีการใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายป่าเถื่อนและล้าหลัง มาปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น โดยการตั้งข้อกล่าวหาเยาวชนจำนวนมากถึง 202 คน ในบางกรณีศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ในเวลานี้มีนักโทษทางการเมืองถูกคุยกับอยู่ในเรือนจำ จำนวน 11 รายด้วยกัน

4.เวลากว่า 8 ปี ภายใต้รัฐบาลประยุทธ์ เศรษฐกิจไทยตกต่ำ มีการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ ด้วยการใช้แรงงานต่างชาติ จำนวนถึง 2.5 ล้านคน แต่ไม่ได้รับการคุ้มครองแรงงาน ไม่มีสิทธิรวมตัวเป็นสหภาพแรงงาน เมื่อเเรงงานเรียกร้องถึงความเดือดร้อนกลับถูกรัฐบาลดำเนินคดี

5.ที่ผ่านมา ครย.112 ได้รวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อเสนอกฎหมายยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 มีผู้ร่วมลงชื่อกว่า 250,000 คน แต่กระทรวงดิจิทัลฯ กลับทำการปิดกั้นการเข้าถึงการเข้าชื่อทางออนไลน์

หนังสือระบุด้วยว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เพียงแต่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่ได้ปฏิบัติตามพันธสัญญาสิทธิมนุษยชนสากลเท่านั้น แต่ยังโกหก หลอกลวงกับนานาชาติว่า ยึดมั่นในสิทธิมนุษยชน จึงเป็นบุคคลที่ปราศจากความน่าเชื่อถือในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในครั้งนี้ จึงขอเรียกร้องต่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการกดดันรัฐบาลประยุทธ์ให้ยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการ 1.ปล่อยนักโทษทางการเมือง 11 คนที่ถูกคุมขังอยู่ในขณะนี้ 2.ให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขกฎหมายเพื่อยกเลิกมาตรา 112 ให้เป็นหลักประกันเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมโดยสงบของคนไทย 3.ให้รัฐบาลไทยยึดมั่นต่ออนุสัญญาแรงงานระหว่างประเทศ คุ้มครองแรงงานต่างชาติในไทย และยกเลิกการค้ามนุษย์ทุกรูปแบบ

ทั้งนี้ทางกลุ่มได้ทำกิจกรรมปราศรัยถึงประเด็นต่างๆ ในหนังสือ และได้ยื่นหนังสือผ่านตัวแทนสถานทูตสหรัฐอเมริกา ในเวลา 14.00 น. หลังจากนั้นได้มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และยุติกิจกรรมในเวลา 14.12 น.