เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา Tony Woodsome  ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในรายการ CareTalk x Clubhouse หัวข้อ ‘ระบอบทักษิณในมัลติเวิร์สของความจน ว่า ถ้าเรามีรัฐบาลไม่ได้มาจากประชาชน รัฐบาลเผด็จการจากการยึดอำนาจ มีรัฐธรรมนูญไม่เห็นหัวประชาชน รัฐธรรมนูญรักษาอำนาจมากกว่ารักษาความมั่งคั่งของประเทศ อย่างนี้จะไปไม่ได้

โทนี่ กล่าวว่า ประเทศยิ่งจนเท่าไร ยาเสพติดยิ่งเยอะ ด้วยทฤษฎีอาชญาวิทยา ระบุว่า ถ้าช่องทางที่ถูกกฎหมายไม่เปิด เขาก็จะไปหากินในทางที่ผิดกฎหมาย และถ้าผิดกฎหมายแล้วโอกาสถูกจับกุมต่ำ ก็จะยิ่งไปหากินทางนั้น แม้เป็นทฤษฎีที่นานมากแล้ว แต่ยังเป็นความจริงอยู่โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาอย่างเรา อย่าเพิ่งบอกว่าประเทศเราจะพัฒนาแล้ว ผมว่าอีกนาน และยิ่งเป็นรัฐบาลอย่างนี้ยิ่งแย่ ซึ่งถ้ายังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ ปัญหายาเสพติดผมเอาอยู่หมด ลูกหลานต้องไม่ตกเป็นทาสเหมือนทุกวันนี้ และถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ยืนพื้นเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดแน่นอน เพราะเป็นเรื่องใหญ่

“ถ้าผมยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ ด้านการรักษาพยาบาล ทุกอำเภอจะมีโรงพยาบาล หรือคลินิก และจะมีเซ็นเตอร์เพื่อเช็กดีเอ็นเอของคนในพื้นที่ ว่ามีแนวโน้มป่วยเป็นโรคอะไร เพื่อดูแลและวินิจฉัย ทำการวิเคราะห์วิจัยต่อเนื่อง กระจายให้ทุกโรงพยาบาลสามารถซื้อยาได้เอง เพราะมีการคัดกรองผ่านระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด และมีระบบการนัดหมอผ่านแอพพลิเคชั่น ส่วนการป้องกัน จะมีการส่งเสริมการออกกำลังกาย และการทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมไปถึง การดูแลเรื่องสุขภาพจิต จัดแพทย์เข้าไปเยี่ยม หรือฝีกให้ อสม. เพื่อเป็นการป้องกันโรค เมื่อตรวจเจอจะสามารถรักษาได้ทันทวงที ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลต่อคนลงได้

ด้านกองทุนหมูบ้าน จะมีการพัฒนาให้เป็นธนาคารประจำหมู่บ้าน เพื่อดูแลคนในหมู่บ้าน โดยจะจัดให้มีงบประมาณหมู่บ้าน เพื่อแก้ไขปัญหาของตัวเอง เป็นการกระจายอำนาจ และสินค้าโอทอป จะผนวกกับเอสเอ็มอี โดยสร้างเป็นไทยแลนด์แบรนด์ ตั้งเป็นเอาต์เล็ต ไว้ตามมหานครใหญ่ที่สำคัญของโลก อย่างนิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน เซี่ยงไฮ และโตเกียว เพื่อโปรโมตสินค้าไทย และใกล้เคียงสินค้าแบรนด์เนม รวมไปถึงมีการสนับสนุนครัวไทยสู่ครัวโลก เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร ในรูปแบบอาหารกึ่งสำเร็จรูปและสำเร็จรูป เพื่อส่งออกไปยังร้านอาหารไทยที่มีอยู่ทั่วโลก ดังนั้น จึงเสียดายโอกาสของประเทศ