เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ดร.ภญ.นันทกาญจน์ สุวรรณปิฎกกุล ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ องค์การเภสัชกรรม เปิดเผยว่า คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ได้พิจารณาบรรจุน้ำมันสารสกัดกัญชาทางการแพทย์ขององค์การเภสัชกรรม เป็นรายการยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร พ.ศ.2564 และได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2564 จำนวน 3 รายการ สำหรับหยอดใต้ลิ้น สำหรับใช้ในโรงพยาบาลและสถานบริการสาธารณสุข ตามข้อกำหนดทางการแพทย์ มีรายละเอียดดังนี้

(1) ยาน้ำมันสารสกัดกัญชาที่มี THC สูง ใช้รักษาเสริมในการรักษาภาวะคลื่นไส้ อาเจียนจากเคมีบำบัด ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะท้ายที่มีอาการนอนไม่หลับ เบื่ออาหาร หรือมีอาการปวดในระดับปานกลางจนถึงรุนแรง

(2) ยาน้ำมันสารสกัดกัญชาที่มี CBD สูง ใช้รักษาเสริมในผู้ป่วยมะเร็งระยะท้ายที่นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร ปวดปานกลางถึงรุนแรง

(3) ยาน้ำมันสารสกัดกัญชาที่มี CBD และ THC สัดส่วนเท่ากัน ใช้รักษาเสริมในผู้ป่วยมะเร็งระยะท้ายที่นอนไม่หลับ เบื่ออาหารปวดปานกลางถึงรุนแรง

ดร.ภญ.นันทกาญจน์ สุวรรณปิฎกกุล ผู้เชี่ยวชาญพิเศษองค์การเภสัชกรรม

ดร.ภญ.นันทกาญจน์ กล่าวต่อว่า ประชาชนสามารถเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพรได้ในระบบบริการสุขภาพของรัฐ โดยรัฐเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านยา ปัจจุบันมีหน่วยบริการทางการแพทย์ที่ได้รับอนุญาตจ่ายกัญชาทางการแพทย์ที่เป็นโรงพยาบาลภาครัฐ จำนวน 893 แห่ง ทั่วประเทศ และเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษา จึงควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและสั่งจ่ายยา ซึ่งแพทย์เหล่านี้ได้ผ่านการอบรมการใช้กัญชามาอย่างถูกต้องและเลือกใช้ยาที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย โดยเฉพาะยาที่ได้รับอนุญาตจาก อย.แล้ว และเป็นยาที่บรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร

“การบรรจุยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ป่วยและส่งเสริมให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาที่มีความจำเป็นได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะยาที่มีราคาสูง และส่งเสริมให้ประชาชนได้หันมาใช้ยาที่ผลิตจากสมุนไพร ทดแทนการนำเข้ายาที่มีฤทธิ์ในการรักษาคล้ายกัน ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านยาของประเทศลงได้” ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ องค์การเภสัชกรรม กล่าว.