เมื่อวันที่ 11 พ.ค. พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สน.มีนบุรี พร้อม พ.ต.ท.จำนงค์ ประสพสุขมั่งดี รอง ผกก.สส. และฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี เปิดเผยผลการจับกุมพระมนตรา สืบทอง อายุ 61 ปี ตามหมายจับของศาลมีนบุรี ที่ จ.419/65 ลงวันที่ 29 เม.ย.65 และ น.ส.สายฝน ไชยทองพันธ์ อายุ 50 ปี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ จับกุมได้ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา นายยุทธนัย ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความว่า ถูกพระมนตรา ผู้อำนวยการศูนย์วิปัสสนานิมิตใหม่ ซอยนิมิตใหม่ 22 แขวงทรายกองดิน เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ หลอกให้โอนเงินสดกว่า 18 ล้านบาท โดยออกอุบายว่า น.ส.รจนา ดิทสกุล ซึ่งเป็นลูกศิษย์ ถูกญาติฟ้องร้องคดีในชั้นศาล ชนะคดีแล้วแต่ไม่มีเงินไปวางประกันทรัพย์สิน จึงชักชวนให้ผู้เสียหายนำเงินมาช่วยเหลือในการวางศาล เมื่อนำเงินและทรัพย์สินออกมาได้แล้วทาง น.ส.รจนา จะมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้กับศูนย์วิปัสสนานิมิตใหม่ และพระมนตราจะเป็นผู้จัดการแบ่งทรัพย์สินดังกล่าวให้สิบเท่าของเงินที่ลงทุน โดยทำสัญญาเงินกู้ไว้เพื่อเป็นหลักประกันให้กับทางผู้ลงทุน ซึ่งทางพระมนตรากับพวก ได้หลอกลวงหลายต่อหลายครั้งให้นำเงินมาวางประกันทรัพย์ แต่ก็ไม่ได้เงินตามที่กล่าวอ้าง

จากการสืบสวนทราบว่าทางพระมนตราและพวก ได้มีการสร้างเรื่องว่า น.ส.รจนา เดือดร้อนเรื่องเงินวางประกัน จนทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ จากนั้นได้มีการโอนเงินเข้าบัญชีพระมนตรา และน.ส.สายฝน รวมกัน 61 ครั้ง จำนวนเงินกว่า 18 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนพบว่าเมื่อผู้เสียหายได้โอนเงินเข้าบัญชีแล้ว ทางพระมนตราได้สั่งการให้หญิงที่ทํางานอยู่ภายในวัดและทําหน้าที่เลขานุการส่วนตัว คือ น.ส.สายฝน โอนเงินต่อไปยังบัญชีต่างๆ รวมกว่า 10 บัญชี และจากตรวจสอบบัญชีส่วนใหญ่ เจ้าของบัญชีจะเป็นพนักงานบ่อนกาสิโน ในประเทศกัมพูชา

ด้าน น.ส.อาริยา (สงวนนามสกุล) พนักงานบ่อนกาสิโน เจ้าของบัญชี ให้การว่า บัญชีที่ถูกเจ้าหน้าที่อายัดนั้น เปิดไว้ให้ลูกค้าโอนเงินเข้าไปแลกชิปเพื่อเล่นการพนัน โดยมีเงินจากบัญชีของพระมนตรา และ น.ส.สายฝน โอนเข้ามาในบัญชี เพื่อแลกชิปเล่นพนันออนไลน์ กว่า 45 ครั้ง เป็นเงินกว่า 5 ล้านบาท

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวพระมนตรา และ น.ส.สายฝน มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยทางพระมนตรา และ น.ส.สายฝนให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ให้การใดๆ พนักงานสอบสวนจึงควบคุมตัวก่อนนำส่งศาลมีนบุรีเพื่อฝากขังต่อไป.