เมื่อวันที่ 12 พ.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 ชี้แจง ภายหลังนายอรรถสิทธิ์ กาญจนโอภาษ ยื่นเรื่องให้ กมธ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) ตรวจสอบนายชัชชาติ สมัยทำหน้าที่เป็นวิศวกรที่ปรึกษาของสถาบันทรัพย์สินทางปัญญา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจตนาคำนวณมูลค่าโครงการร้านค้าปลอดอากร, โครงการจัดกิจกรรมเชิงพาณิชย์ และประเมินมูลค่าความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการในสนามบินสุวรรณภูมิให้ต่ำกว่าความเป็นจริง เพื่อหลีกเลี่ยงกระบวนการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐปี 2535 หรือไม่

โดยนายชัชชาติ ชี้แจงว่า โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นสมัยตนดำรงตำแหน่งวิศวกรที่ปรึกษาของสถาบันทรัพย์สินทางปัญญา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้รับการว่าจ้างจากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยให้ทำการศึกษาโครงการ เมื่อ 18 ปีก่อน ต่อมาทราบภายหลังว่าโครงการถูกตรวจสอบโดย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผลปรากฏว่าไม่มีมูลความผิด และยุติกระบวนการการตรวจสอบไปตั้งแต่ พ.ศ. 2554 ทั้งนี้ ป.ป.ช. ไม่เคยเชิญตนไปให้ข้อมูลหรือร่วมกระบวนการตรวจสอบ เนื่องจากไม่ใช่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประมูลมูลค่า แต่หาก กมธ.ป.ป.ช.สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมการสอบ ตนยินดีให้ความร่วมมือและพร้อมให้ข้อมูลเต็มที่

“ผมยินดีให้ กมธ.ป.ป.ช. ตรวจสอบ เรามั่นใจว่าโปร่งใส และยืนยันว่าเรื่องผ่านไปประมาณ 18-19 ปีมาแล้ว เราไม่เกี่ยวกับการประเมินราคาใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเราไปในฐานะวิศวกรที่ปรึกษา ภายหลัง ป.ป.ช. สรุปแล้วว่าไม่มีมูลและยุติเรื่องไปตั้งแต่ปี 2554 จริงๆ เราไม่รู้รายละเอียด เพราะเราไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่เคยถูกเชิญไปสอบหรือให้ข้อมูล” นายชัชชาติ กล่าว

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ไม่ได้รู้จัก นายอรรถสิทธิ์ กาญจนโอภาษ เป็นการส่วนตัว และไม่ทราบว่าเจตนาที่แท้จริงของการยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ.ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ตาม หากการกระทำของบุคคลใดที่มีจุดประสงค์ทางการเมือง หรือมีผลต่อความนิยมของผู้สมัครลดลงถือว่าขัดต่อกฎหมายและมีผลทางอาญา ขณะนี้ ให้ฝ่ายงานกฎหมายตรวจสอบ ยืนยันว่าตนเองพร้อมถูกตรวจสอบเพราะถือเป็นบุคคลสาธารณะ.