เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงไทม์ไลน์การพิจารณาร่าง พ.ร.ป.เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับคือ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองว่าสภาเปิดในวันที่ 22 พ.ค.แต่ยังไม่สามารถเข้าพิจารณาได้ โดยต้องประชุมร่วมกันสองสภา จะเข้าเมื่อไหร่นั้นตนไม่ทราบ ตามขั้นตอนภายหลังลงมติวาระที่ 3 ต้องให้ กกต.ลงความเห็น ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน โดยหากไม่มีการแก้ไขใดๆ นำร่าง พ.ร.ป.ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ซึ่งมีระยะเวลา 3 เดือน ดังนั้นกฎหมายจะออกมาช้าหรือเร็วไม่ทราบ และไม่ต้องคาดการณ์ แต่ไม่ใช่เดือน ก.ค.แน่นอน

เมื่อถามย้ำว่าหากยุบสภาในระหว่างกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับไม่แล้วเสร็จ เป็นการลำบากหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ลำบากถ้ายุบกะทันหัน เนื่องจากจะเกิดการ BUCA ทางการเมือง”

นอกจากนี้นายวิษณุ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เริ่มตั้งแต่วันที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินเมื่อปี 2557 ได้หรือไม่ว่าไม่ได้เกี่ยวกันเลย เป็นคนละประเด็นกัน ตอนนั้นเมื่อเข้ามาอย่างไรก็ต้องยื่น ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช.ของรัฐธรรมนูญปี 2557 แต่การนับวาระ 8 ปี เป็นไปตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งเพิ่งมาบัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่ในรัฐธรรมนูญปี 2557 ไม่ได้บัญญัติเรื่องวาระ 8 ปี ตนจึงไม่เห็นเป็นประเด็นเดียวกัน แต่จะโยงหรือไม่โยงอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่า ถ้านับสถานะนายกฯ ​ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินใหม่อีกครั้งหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน อยู่ที่ว่าใครจะไปยื่นเพราะมีเหตุอันควรสงสัยอยู่ พอถึงเวลาจะมีคนสงสัยอยู่ดี

เมื่อถามว่า เรื่องการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกฯ ควรชัดเจนก่อนที่ครบในเดือน ส.ค.หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า อยู่ที่ใครสงสัยก็ดำเนินการไป ถ้าไม่สงสัยจะทำทำไม เพราะตอนยื่นศาลรัฐธรรมนูญจะต้องบอกว่า มีความสงสัยมีข้อขัดแย้งอะไรก็ว่าไป

เมื่อถามว่านายกฯ ได้สอบถามมาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า สอบถามผ่านตนมายังไม่มี แต่ผ่านคนอื่น ตนไม่รู้ ยืนยันว่านายกฯ ยังไม่คุยเรื่องนี้.