จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า “ฝากถึงเทศบาลนนทบุรีนะครับ ชาวบ้านแจ้งว่าทำแม่งมาสองปีแล้วไม่เสร็จสักที ข้างล่างเป็นหลุมลึกครึ่งตัวคน แต่ไม่มีอะไรกั้นสักอย่างว่าห้ามผ่านอันตราย ขอให้ผมตกเป็นคนสุดท้าย รถพังใช้งานไม่ได้ น้ำเข้าเครื่อง คิดดูครับว่ามันลึกแค่ไหน รัตนาธิเบศร์ 22” กล้องวงจรปิดจับภาพเหตุการณ์วันที่ 11 พ.ค. 65 เวลาประมาณ 15.09 น. ผู้เสียหายขี่รถ จยย.เข้ามาภายในซอย หลังจากนั้นจังหวะที่วนรถจะกลับทางเดิม ได้ตกลงไปที่บ่อข้างทางที่ไม่มีป้ายหรือไม้กั้น ตกลงไปมิดตัว และมีป้ายืนอยู่บริเวณหน้าบ่อ หลังจากนั้นมีไรเดอร์คันหลังที่ขี่ตามมาเข้ามาช่วยเหลือผู้เสียหายขึ้นจากบ่อ และช่วยกันยกรถขึ้นมานั้น
   
เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบริเวณซอยรัตนาธิเบศร์ 22 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี พบนายชัยภัทร จัทร์ทอง อายุ 23 ปี ผู้ที่โพสต์ข้อความดังกล่าว ซึ่งเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 65 เวลาประมาณ 15.09 น. ได้ขี่รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีดำแดง ทะเบียน 6 กย 642 กรุงเทพมหานคร ตกลงไปที่บ่อข้างทางที่มีความลึกอยู่ประมาณหน้าอก เนื่องจากน้ำท่วมทำให้มองไม่เห็นถนน โดยไม่มีป้ายบอกทางและไม้กั้นบริเวณหลุม ทำให้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและรถ จยย.กับโทรศัพท์พัง แต่ไม่มีหน่วยงานไหนออกมารับผิดชอบ จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ให้ไปหาเทศบาลนครนนทบุรี บอกว่าไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจ

นายชัยภัทร กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุในวันเวลาดังกล่าว ตนได้รับออร์เดอร์จากลูกค้า โดยจีพีเอสให้ตนเข้ามาทางดังกล่าว ซึ่งตนเห็นว่ามีการก่อสร้างอยู่และมีป้ายบอกให้ใช้เส้นทางตามที่บอก ตอนเกิดเหตุมีป้ายืนอยู่บริเวณด้านหน้าซอย ตนคิดว่าข้างหน้าเป็นถนนปกติ จึงเลี้ยวเข้ามา ซึ่งป้าก็เห็นและถ่ายคลิปไว้ขณะตนขี่รถตกบ่อน้ำลึก และถูกรถทับขา หลังจากที่ตกลงไปมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเป็นไรเดอร์ที่เพิ่งขี่เข้ามา ตอนที่ขี่เข้ามาไม่ทราบเลยว่าเป็นถนนที่มีหลุม เพราะน้ำท่วมเยอะมาก ตกลงไปลึกประมาณอก และไม่มีการติดป้ายกั้นหรือไม้กั้นว่ามีหลุมอยู่ แต่หลังจากที่ตนขึ้นมาแล้ว ได้ยืมรถเพื่อนไปส่งออร์เดอร์ให้ลูกค้าก่อน เพราะลูกค้าไม่พอใจที่รอนาน หลังจากที่กลับมา พบว่าทางหน้างานก็เอาไม้มากั้นและติดเชือก

นายชัยภัทร กล่าวอีกว่า ตอนนี้รถตนเสียหายเครื่องพังเพราะน้ำเข้าเครื่อง ต้องทำใหม่ทั้งหมด ชุดสีตอนยกขูดกับถนนพังเสียหาย และโทรศัพท์พังเปิดไม่ติด หลังจากเกิดเหตุตนจึงไปแจ้งความที่ สภ.รัตนนาธิเบศร์ ตนไปแจ้งความประมาณ 18.00 น. นั่งรอประมาณ 3 ชั่วโมง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ไล่กลับ บอกว่าตำรวจช่วยอะไรไม่ได้ และไล่ให้ไปเทศบาล แต่เวลานี้เทศบาลปิดไปแล้ว และไล่ให้ตนไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตนก็ไปตามที่บอก แต่ก็ถูกไล่กลับมาอีกครั้งและพูดว่าช่วยอะไรไม่ได้ ไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจ ตนงงมาก จึงกลับและจะติดต่อเทศบาลภายหลัง

“รู้สึกแย่มากคิดว่าตำรวจจะช่วยเหลือประชาชน แต่กลับมาไล่กัน จึงอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลพื้นที่ โดยเอาป้ายมาติด ไม่ใช่ให้คนตกไปก่อนถึงจะเอาไม้มากั้น และอยากให้รับผิดชอบเรื่องรถและโทรศัพท์ที่พัง เพราะผมไม่สามารถทำงานต่อได้ และไม่มีเงินพอที่จะรับผิดชอบเอง” หนุ่มไรเดอร์ กล่าว
   
จากการสอบถาม นายภูวิช สุภวิรี อายุ 49 ปี บ้านฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ เล่าว่า ตรงนี้รถออกได้หลายทาง บริเวณนี้ก่อสร้างมาประมาณ 2-3 ปีแล้ว เคยเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กัน แต่เป็นคนแก่ตกลงไปแล้วเหล็กเสียบขา แต่พอเกิดเหตุก็แก้ปัญหาเอาไม้มากั้น แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีมากั้น มีแค่ปักไม้ แต่เมื่อวานฝนตกหนัก ไม้อาจจะล้ม ถ้าน้ำท่วมจะไม่สามารถมองเห็นถนน จะไม่รู้เลยว่าตรงไหนมีบ่อ.