เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2565 นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ประธานคณะกรรมการวิสามัญการพิทักษ์เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา พร้อมด้วยคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษา ติดตาม และสืบสานแนวพระราชดำริ และคณะทำงานสืบสานพระราชปณิธานด้านโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชในคณะกรรมาธิการวิสามัญ โดยมีนายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ร่วมลงพื้นที่ศึกษาติดตามโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่แคม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านแม่แคม ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ เพื่อติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างและรับฟังปัญหา อุปสรรคในการดำเนินงาน ณ พื้นที่งานก่อสร้างโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่แคม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการขนาดกลางของสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 4 กองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง จังหวัดสุโขทัย โดยมีนายชัยพงษ์ สุขยากร ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 4 บรรยายสรุปถึงผลการดำเนินการปัญหาอุปสรรคในการก่อสร้าง

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ กล่าวว่า โครงการนี้มีความคืบหน้าให้เห็น แต่ยังคงมีอุปสรรคสำคัญอยู่ทำให้การสร้างอ่างเก็บน้ำไม่สำเร็จตามที่วางแผนไว้ ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากการประสานงานระหว่างหน่วยงานกรมชลประทาน และกรมทางหลวง ดังนั้น จึงอยากให้ทั้งสองหน่วยงานคำนึงถึงประชาชนเป็นศูนย์กลาง โครงการนี้เป็นโครงการพระราชดำริ และติดในเรื่องของการออกแบบ การก่อสร้าง การปรับเส้นทาง เรื่องพื้นที่ ซึ่งทางคณะนั้นมีหลักการสำคัญคือต้องการสื่อสารพระราชดำริของพระองค์ รัชกาลที่ 9 ต่อมาจนถึงรัชกาลที่ 10 ที่พระองค์ท่านได้สืบสานพระราชปณิธาน ซึ่งมุ่งทำให้กับประชาชนจนเกิดผลสัมฤทธิ์และบรรเทาความเดือfร้อนให้กับประชาชนจนได้ใช้น้ำอย่างทั่วถึง

โดยเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2525 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยเป๊าะ ตามพระราชดำริ และทรงเยี่ยมราษฎร ณ บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยเป๊าะ ในท้องที่บ้านลู ตำบลห้วยหม้าย อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ได้พระราชดำริเกี่ยวกับงานชลประทานว่า “ควรพิจารณาวางโครงการและก่อสร้างอ่างเก็บน้ำตามลำน้ำสาขาต่างๆ ของแม่น้ำยม เพื่อจัดหาน้ำให้ราษฎรหมู่บ้านต่างๆ ในเขตอำเภอสอง และอำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ให้สามารถมีน้ำทำการเพาะปลูกได้ทั้งในฤดูฝน-ฤดูแล้ง และมีน้ำเพื่อการอุปโภคตลอดปีด้วย ตามที่ราษฎรหมู่บ้านต่างๆ ได้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอ่างเก็บน้ำต่างๆ ดังกล่าว ควรพิจารณาก่อสร้างโดยเร่งด่วนตามความเหมาะสมต่อไป” 

กรมชลประทานจึงได้สนองพระราชดำริดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่แคม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ขนาดความจุระดับน้ำเก็บกัก 8,550,000 ลูกบาศก์เมตร คาดว่า หากโครงการฯ แล้วเสร็จ จะสามารถจุน้ำได้ถึง 8.55 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 7,500 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ใน 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลสวนเขื่อน ตำบลกาญจนา และตำบลป่าแดง อำเภอเมืองแพร่ ปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 70% ของปริมาณงานทั้งหมด