เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวในการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ผ่านเพจ “กระทรวงสาธารณสุข” ตอนหนึ่งว่า ตอนนี้อัตราการคิดเชื้อในประเทศไทยสูงถึง 1.7 หมื่นราย และยังไม่รู้ว่านี่คือจุดพีคของการระบาดแล้วหรือยัง เพราะยังมีประชาชนที่มีการตรวจด้วยชุดทดสอบเร็วด้วยตัวเองอีกส่วนหนึ่ง สัปดาห์หน้าคงมีการรายงาน ทั้งนี้ตนเคยมีการชี้แจงแล้วว่าในพื้นที่ กทม. หากมีการติดเชื้อเกินวันละ 1 พันคน ระบบสาธารณสุขอาจจะรับไม่ไหว ก่อนหน้านี้อัตราการติดเชื้อ กทม.ก็เกินศักยภาพระบบสาธารณสุขไปกว่า 3 เท่า วันนี้ป่วยกว่า 4 พันคน หากยังเป็นเช่นนี้ต่อคิดว่าอัตราป่วยจะสูงเกินระบบสาธารณสุขไปกว่า 5 เท่า ทั้งนี้ทั้ง กทม. ปริมณฑล และจังหวัดที่มีการระบาดหนักจะมีปัญหาแบบเดียวกัน

นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้เตียงในระบบของทั้งภาครัฐและเอกชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ล้นจริงๆ ต้องกราบขออภัยพี่น้องประชาชนหากไม่ได้รับความสะดวก แต่อยากให้เข้าใจซึ่งกัน ตอนนี้ไอซียูรับได้ 10 เตียง รับไป 12 เตียง และยังมีต้องรออยู่ที่ห้องฉุกเฉินอีก พอไอซียูว่าง ก็ต้องส่งคนป่วยจากห้องอยู่ที่ห้องฉุกเฉินขึ้นไป ตอนนี้บางแห่งต้องปิดห้องฉุกเฉินเพราะไม่มีแต่กระทั่งพื้นที่สำหรับตั้งเตียง

เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้ถ้านโยบายชัดเจน ซึ่งตนกล่าวในหลายเวทีแล้วว่าล็อคดาวน์ครั้งนี้ไม่ค่อยเหมือนล็อกดาวน์ การจราจรมากจริงๆ อาจจะต้องลดการออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ระบบการควบคุมโรคซึ่งขณะนี้ก็มีความพยายามในการช่วยกันอยู่ เราพยายามแยกผู้ติดเชื้อกับคนไม่ติดออกมาให้เร็วที่สุด คนไม่มีอาการหรืออาการน้อยทำ home isolation หรือ community isolation หรือไปอยู่ที่ฮอสพิเทล ซึ่งดำเนินการไปได้กว่า 3 หมื่นคนแล้ว รวมถึงของ กทม.กว่า 1 พันคน เพื่อพยายามทำเตียงสีเขียวให้ว่างและปรับระดับให้รับผู้ป่วยสีเหลืองได้มากขึ้น อย่างฮอสพิเทลมีกว่า 2 หมื่นเตียงพยายามปรับ 10-20% ให้รับผู้ป่วยสีเหลืองที่ต้องใช้ออกซิเจนเข้ามาดูแล แต่มีปัญหาเรื่องถังออกซิเจนไม่พอ และมีข้อจำกัดจะปรับทั้ง 100% เพื่อรับผู้ป่วยสีเหลืองไม่ได้ เพราะต้องใช้ออกซิเจนจำนวนมากเป็นเรื่องที่อันตรายเหมือนกัน 

ขณะนี้เราทำฮอสพิเทลสำหรับผู้ป่วยสีเหลืองอยู่ในการดูแลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ รพ.วัดไร่ขิงเมตตาประชารักษ์ รพ.เลิดสิน มีผู้ป่วยให้ออกซิเจนประมาณ 10% และกำลังมีแนวคิดขยายเพิ่ม รวมกับโรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลใน กทม. ทั้งรัฐ เอกชนทำเตียงสีเหลือง สีแดงเพิ่มเติม แต่คิดว่าขยายอย่างไรก็ไม่น่าจะเพียงพอกับการระบาดนี้ อย่างที่บอกเราไม่แน่ใจว่าถึงจุดพีคแล้วหรือยัง ถ้าถึงที่พีคแล้ว กทม.ป่วยวันละ 5 พันคน ขยายอย่างไรก็ไม่พอ เพราะที่เราขยับไม่ได้คือคน แล้วคนจะหมดแรงก่อน บุคลากรหน้างานหลายคนติดเชื้อฯ วันนี้ก็มีข่าวพยาบาลที่จังหวัดสมุทรปราการเสียชีวิตจากโควิด ต้องขอสังคมไทยเข้าใจ เอื้อเฟื้อ เกื้อเสริมแรงการทำงาน วันนี้บุคลากรหน้างานเราพร้อมดูแลประชาชนเต็มที่ แต่เราขอความเข้าใจเราด้วย

อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ตอนนี้การติดเชื้อลงไปในครอบครัว การอยู่ร่วมบ้านถ้าไม่ได้อยู่ตลอด ก็ต้องเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย กินข้าวด้วยกันได้ นั่งห่างกัน 2 เมตร พูดคุยกันให้น้อยที่สุดระหว่างกินอาหาร ไม่จำเป็นอย่าอยู่ใกล้ชิดกัน ขอความกรุณาเพราะ 2-4 สัปดาห์นี้ถ้าเรากด Curve การระบาดได้ดีเตียงในโรงพยาบาลจะกลับมาเพียงพอ แต่ถ้ากดการระบาดไม่ได้ กราฟการระบาดยังขึ้นไปแบบนี้ ซึ่งต้องย้ำว่าเรายังไม่ทราบว่าตอนนี้เราอยู่ในจุดพีคของการระบาดหรือไม่ ดังนั้นต้องฝากประชาชนและทุกภาคส่วนภาครัฐนโยบายต้องชัดเจน เข้มแข็ง ทั้งหมดต้องร่วมมือกันคิดว่าสังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเอื้อเฟื้ออารีถ้าเราทำงานไปด้วยกันได้เราจะผ่านวิกฤตินี้ไปได้ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนจะเป็นมาตรการที่ลดการเสียชีวิตได้ดีที่สุด ขอให้ประชาชนมาฉีด