เมื่อวันที่ 13 พ.ค.​ ที่ห้องประชุมห้องอาหารเรือนไทยในบาง ต.บางใบไม้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีกลุ่มเครือข่ายองค์กรด้านเด็กเยาวชน และภาคประชาสังคม ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และกลุ่มเครือข่ายเด็กในพื้นที่ภาคใต้ ประมาณ 30 คน ได้ประชุมเพื่อร่วมกันหามาตรการปกป้องเหยื่อที่ถูกละเมิดทางเพศ พร้อมออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกภาคส่วนออกมาเคลื่อนไหวคุ้มครองเหยื่อและ น.ส.อัจฉรา สุระกุล ผอ.บ้านพักเด็กและครอบครัวสุราษฎร์ธานี ที่เป็นข้าราชการน้ำดีกล้าปกป้องเหยื่อเด็กและเยาวชนผู้เสียหายจากการแทรกแซงของข้าราชการระดับสูง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์​(พม.)

นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน​ (ขสย.) กล่าวว่า ขสย.และเครือข่ายเพื่อนเยาวชนภาคใต้ ได้ติดตามประเด็นนี้อย่างต่อเนื่อง และจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมแบบผิดๆ​ ในเรื่องการซื้อบริการหรือการหาประโยชน์ทางเพศกับเด็กที่ยังมีอยู่ในบางกลุ่มคน โดยเฉพาะบุคคลที่มีหน้ามีตาทางสังคมและมีอำนาจเหนือผู้เสียหายทำให้การดำเนินคดี หรือการกอบกู้คุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้เสียหาย หรือผู้ถูกกระทำเป็นไปด้วยความยากลำบาก รวมถึงกรณีข้าราชการที่ลุกขึ้นมาปกป้องเด็กเยาวชนและต่อสู้เพื่อความถูกต้องเป็นธรรม แต่กลับถูกละเลยและมีการใช้อำนาจกดดัน

“จึงเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายในสังคมต้องร่วมแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย และติดตามการดำเนินคดีดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์​ (พม.) ต้องทบทวนการทำงานด้านการปกป้องคุ้มครองเด็ก​ ไม่ใช่ปล่อยให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก มีเพียงแต่มาตรการตั้งรับไม่มีมาตรการเชิงรุกที่เป็นรูปธรรม และยิ่งมีข้าราชการในกระทรวงมีส่วนร่วมในการกระทำผิดด้วยแล้ว รัฐมนตรี พม.มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น” นายธีรภัทร์ กล่าว

ด้านนิวัตร์ โฮ้เต้กิ้ม แกนนำกลุ่มยุวชนสร้างสรรค์สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นจากที่หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ติดตามเรื่องอย่างจริงจัง นำเด็กเข้าแจ้งความเอาผิดกับผู้กระทำผิดจนนำไปสู่การเข้ามาทำคดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรง ซึ่งน่าตกใจอย่างยิ่งว่าจากพยานหลักฐานทั้งสถานที่และบุคคล พบว่ามีผู้กระทำความ ผิดที่ถูกออกหมายจับถึง 42 หมายจับ และคาดว่าการขยายผลจะเพิ่มขึ้น ซึ่งหลายคนเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม จึงต้องมีการดำเนินการอย่างจริงจังทุกมิติองค์กรด้านเด็ก เยาวชน ภาคประชาสังคมจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเครือข่ายเพื่อนเยาวชนภาคใต้     จึงมีจุดยืน และข้อเสนอต่อสังคมดังนี้

1. ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา เร่งรัดตรวจสอบ ตามพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยไม่มีการเข้ามาแทรกแซงในการปฏิบัติหน้าที่ในทุกกรณี

2. ขอให้มีการช่วยเหลือ ปกป้อง คุ้มครอง และเยียวยา เด็ก ครอบครัว และข้าราชการที่ทำงานอย่างถูกต้อง ให้มีความปลอดภัยในชีวิตและหน้าที่การงาน

3. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต้องมีมาตรการเชิงรุกในการปกป้องเด็ก ครอบครัว เจ้าหน้าที่ รวมถึงข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อคลี่คลายปัญหา โดยใช้กรณีนี้เป็นกรณีศึกษา

4. เรียกร้องทุกภาคส่วนทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ให้มีส่วนร่วมในการติดตามและกระตุ้นสังคม ช่วยกันป้องกันปัญหาเด็กเยาวชนให้สมกับความเป็น “สุราษฎร์เมืองคนดี” ทั้งนี้เครือข่ายองค์กรทำงานด้านเด็ก เยาวชน ภาคประชาสังคมในพื้นที่​ จ.สุราษฎร์ธานี และเพื่อนเครือข่ายจะให้ความสำคัญและร่วมติดตามกรณีนี้อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแจ้งว่า สำหรับ น.ส.อัจฉรา สุระกุล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวสุราษฎร์ธานี ที่เป็นผู้นำเหยื่อเด็กและเยาวชนผู้เสียหายเข้าแจ้งความตำรวจจนมีการสอบสวนผู้กระทำผิดในขบวนการหลายคน และถูกกดดันจากข้าราชการระดับสูงใน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้รับการคุ้มครองในฐานะพยานในคดีตามการสอบสวนของตำรวจแล้ว