บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 29 ก.ค.64 ผันผวนในแดนบวกและลบ แม้ตลาดจะรับปัจจัยบวกหลังคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% และยังคงมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) แต่ยังถูกกดดันจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศที่ยังสูงขึ้นต่อเนื่องพุ่งขึ้น 1.7 หมื่นคน ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,537.78 จุด บวก 0.15 จุด หรือ 0.01% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 79,544.44 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 505.21 จุด ลดลง 2.54 จุด หรือ 0.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7,051.67 ล้านบาท

รายงานข่าวจาก บล.ไอร่า กล่าวว่า นอกเหนือจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดในไทยที่พุ่งขึ้นจนอาจยกระดับมาตรการคุมเข้มและขยายพื้นที่ล็อกดาวน์เพิ่มนั้น นักลงทุนยังต้องติดตามการประชุมสัมพันธ์จีน-สหรัฐ ที่ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า อีกทั้งจีนยังกล่าวหาสหรัฐว่าพยายามปิดล้อมและทำลายการพัฒนาของจีน สะท้อนถึงแนวโน้มสงครามทางการค้ามีโอกาสกลับมารุนแรงได้อีกครั้งในระยะถัดไป ซึ่งจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมได้บ้าง ฉะนั้นการอ่อนตัวของดัชนีในระยะนี้จึงเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นในธีมที่มีแนวโน้มผลประกอบการดีหลังประกาศงบไตรมาส 2

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

1.ดีแทค ปิดที่ 35.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท

2.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 103.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

3.แอดวานซ์ ปิดที่ 178.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

4.ปตท. ปิดที่ 35.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

5.เอสซีจีพี ปิดที่ 68.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท