เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ร.ต.ท.เอกลักษณ์ วงศ์ษา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ขลุง จ.จันทบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันตายในบ้าน กลางสวนผลไม้ พื้นที่ บ้านวันยาว ต.ซึ้ง อ.ขลุง จ.จันทบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัชวาล โตโสภณ ผกก.สภ.ขลุง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลขลุง และเจ้าหน้าที่ขลุงมูลนิธิ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว หน้าบ้านพบศพ นายเรืองศักดิ์ รักร่วม อายุ 60 ปี เจ้าของบ้าน สภาพนอนหงายจมกองเลือดบนพื้นข้างประตูเลื่อนโรงจอดรถหน้าบ้าน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขณะ 9 มม. เข้ากลางหลัง 2 นัดทะลุหน้าอก โคนขาซ้าย 1 นัด และ เอวขวาอีก 1 นัด รวม 4 นัด และยังพบปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกันอีก 2 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือนายนนทภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี เป็นลูกเขยผู้ตายเอง หลังก่อเหตุขับรถกระบะอีซูซุ แบบตอนเดียว สีบรอนซ์ ทะเบียน (สงวนหมายเลข) นครศรีธรรมราช หลบหนีไปทางโรงเรียนขลุงรัชดาภิเษก จึงวิทยุสกัดจับตามถนนทั้งสายหลักและสายรอง ที่คาดว่าจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี แต่ไร้วี่แวว สอบสวนพี่สาวนายนนทภัทร เบื้องต้นเล่าว่า ทั้งสองสัมพันธ์เป็นพ่อตา ลูกเขยกัน กระทั่งมามีเรื่องที่ผู้ตายกล่าวหานายนนทภัทร ว่ายักยอกเงินซื้อขายมังคุดไปกว่า 2 แสนบาท ทำให้ทั้งสองมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยครั้ง เจอหน้ากันเป็นมีปากเสียง ก่อนเกิดเหตุทราบว่านายนนทภัทร แวะมาหาลูกเมียที่บ้านเกิดเหตุแล้วมีปากเสียงกับผผู้ตายเรื่องเงิน 2 แสนบาทอีก โดยครั้งนี้ผู้ตายด่านายนนทภัทร ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทำให้ทนไม่ไหวชักปืนออกมารัวยิงใส่ 4 นัดซ้อน เสียชีวิตดังล่าว

ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนนทภัทร มือปืนได้ขับรถกระบะ ย้อนกลับมาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ที่ สภ.ขลุง พร้อมของกลางอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจึงทำการตรวจเขม่าดินปืนที่มือไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวไปสอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือยิง นายเรืองศักดิ์ พ่อตาจริง เนื่องจากบันดาลโทสะที่ถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงิน 2 แสนบาท แถมพูดจาหยาบคายจนทนไม่ไหว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และพกพาอาวุธไปในที่ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป